Let’s Love
Dir en grey (ตอนแรก)
เป็นบทความจากนิตยสาร The Guitar Mag ในคอลัมน์ Let’s Love ซึ่งได้กล่าวถึง Dir en grey โดยนำเสนอเนื้อหาต่อเนื่องกันสองฉบับ ขอเริ่มที่ฉบับแรกก่อนนะคะ
ถ้าจะพูดถึงวงดนตรี J-Rock ที่เริ่มต้นและเติบโตจนได้รับความนิยมทั้งในประเทศบ้านเกิด
แถบเอเชียจนถึงฝั่งยุโรปและอเมริกาในช่วง 10-12
ปีที่ผ่านมาเห็นทีคอเพลงเจร็อคน้อยคนนักที่จะบอกว่าไม่รู้จักวง Dir en grey วงดนตรีที่มีแนวเพลง ความสามารถ
และการนำเสนอที่เป็นตัวของตัวเองอย่างที่สุด ไปทำความรู้จักกับ Dir en grey
วงดนตรีเจร็อคที่มีดีกรีอินเตอร์วงนี้กันเลยดีกว่า
Dir en grey (เดอร์ ออง เกรย์) อ่านออกเสียงแบบญี่ปุ่นว่า Diru an gurei (ดิรุ อัน กุเรอิ) คำนี้มาจากการรวมกันของสามภาษาคือ
เยอรมัน ฝรั่งเศส และอังกฤษ ซึ่งแปลว่าเหรียญสีเทา ชื่อของกลุ่มศิลปินแนว เมทัล
ร็อค ของญี่ปุ่น เริ่มก่อตั้งวงเมื่อปี 1997 จากการเป็นวงอินดี้ที่ชื่อ La:Sadie’s โดยประกอบด้วยสมาชิกทั้งสี่คนได้แก่ Kyo (จริงๆ แล้วเขาไม่ได้มีชื่อนี้มาแต่กำเนิด หากแต่เขาไม่ชอบที่จะใช้ชื่อจริงของตัวเองสักเท่าไหร่
และคิดเพียงแค่ชื่อที่เขาจะใช้ในวงการนี้จะต้องเป็นภาษาญี่ปุ่นโดยเป็นคันจิตัวเดียวและได้ออกมาเป็น
Kyo ที่เราเรียกกันจนถึงทุกวันนี้นี่เอง), Kaoru, Die และ Shinya ที่ร่วมทำงานเพลงกับ Kizaki มือเบสในยุคแรก ก่อนที่จะมีการปรับเปลี่ยนซึ่ง Kizaki ได้ออกไปจากวง
ทำให้สมาชิกที่เหลือพยายามค้นหามือเบสใหม่จนได้ Toshiya เข้ามาร่วมวงอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ปีนั้น
และเริ่มปล่อยผลงานเพลงชิ้นแรก E.P. มินิอัลบั้มในชื่อ
MISSA ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อวงมาเป็น Dir en grey โดยคาโอรุเป็นคนเลือกใช้ชื่อนี้ ด้วยเหตุผลง่ายๆ
คือความหลากหลายของตัวภาษานั้นเอง
หลังจากนั้นไม่นาน
แม้ว่าพวกเขาจะเข้าสู่สายดนตรีด้วยแนววิชวลร็อคทั่วไป
แต่พวกเขาก็ได้รับความสนใจมากขึ้นในปี 1998
ด้วยการที่สามารถส่งผลงานเพลงเข้าไปอยู่ในท็อป 10 ของโอริกอนชาร์ตได้สำเร็จ
ทั้งที่พวกเขายังคงทำเพลงในฐานะของวงอินดี้ด้วยเพลง Jealous และ -I’ll- ในช่วงของการเริ่มต้นนี้ Toshiya ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความสามารถในการเล่นดนตรีของเขาค่อนข้างมาก
ไม่ว่าจะเป็นฝีมือยังไม่ดีพอที่จะร่วมกับวง หรือแม้แต่เล่นได้แย่ไม่มีการพัฒนา
แต่ตัวเขาไม่คิดที่จะสนใจ
กลับนำเอากระแสวิพากษ์วิจารณ์นั้นมาเป็นแรงผลักดันและทำให้ทุกคนได้เห็นว่าสิ่งที่เรียกว่าพัฒนาการของเขาอยู่ตรงไหน
และสิ่งที่ทำให้ Dir en
grey
ถูกจับตามองมากยิ่งขึ้นก็เมื่อซิงเกิ้ลถัดมา 5 ซิงเกิ้ล
พวกเขามีโอกาสได้ร่วมงานกับโปรดิวเซอร์คนเก่งของวงการที่พวกเขาเองต่างก็ยกย่องให้เป็นฮีโร่ของตัวเอง
Yoshiki แห่งวง X-Japan นี่เอง
ด้วยความที่เป็นวงอินดี้ซึ่งมีอายุเฉลี่ยน้อยกว่าวงอื่นๆ
เอกลักษณ์ในการแต่งตัวและนำเสนออิมเมจของวง หากแต่ก็มากความสามารถในเวลาเดียวกัน
บวกกับโยชิกิที่มารับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์
ปลุกปั้นให้วงโดดเด่นและสร้างกระแสฮือฮาได้มากที่สุดด้วยการปล่อยซิงเกิ้ลได้แก่ Akuro no Oka, Zan และ Yurameki ออกวางจำหน่ายในวันเดียวกัน
ฝีมือและพัฒนาการด้านดนตรีที่ได้รับการถ่ายทอดและดูแลจากโยชิกิ
ทำให้พวกเขาเป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
จนเมื่อกลางปี 1999 พวกเขาก็เดบิวท์และออกผลงานอัลบั้มแรก GAUZE ภายใต้สังกัด Firewall Div. ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มส่งผลงานบันทึกการแสดงสดซึ่งเป็นการทัวร์อัลบั้มแรกนี้ออกมาให้ได้ติดตามกัน
ในปี 2000 Kyo นักร้องนำของวงต้องเข้ารับการรักษาด้วยปัญหาการได้ยินเสียงต้องทำให้เลื่อนกำหนดการทัวร์คอนเสิร์ตในอัลบั้มที่สอง
Macabre: “Tour
00>>01 Macabre” หลายแห่งออกไป
ทำเอาแฟนๆ เป็นห่วงไปตามๆ กัน หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ส่งซิงเกิ้ล Ain’t Afraid to Die ออกมาในเดือนเมษายน ปี 2001, ปีถัดมา ควบคู่กับผลงานอัลบั้มที่สาม
Kisou ที่พวกเขาปล่อยออกมาให้แฟนๆ ได้ติดตามกัน
พวกเขาเริ่มทำการแสดงคอนเสิร์ตในต่างประเทศเป็นครั้งแรก
โดยพวกเขาเริ่มทัวร์กันที่ประเทศจีน ไต้หวัน และเกาหลี
ก่อนที่จะกลับมาญี่ปุ่นสิ้นสุดการทัวร์ Rettou Gekishin Angya ครั้งสุดท้ายที่แสนยาวนานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการโปรโมท E.P. มินิอัลบั้มที่สองของวงที่ชื่อ Six Ugly โดยมินิอัลบั้มนี้พวกเขาก็ยังคงดึงดูดความสนใจและสร้างกระแสไปจนถึงเทรนด์ใหม่ๆ
ให้กับวงการได้เป็นอย่างดี ทั้งสไตล์การแต่งตัว เสื้อผ้าหน้าผม และแน่นอนที่สุด
แนวเพลงสำหรับ Six Ugly
นี้ต้องยอมรับว่าแนวเพลงของพวกเขาหลากหลายแต่ยังคงความหนักหน่วงไว้ได้เป็นอย่างดี
แถมด้วยเพลงที่มีจังหวะและทำนองสนุกสนานในการเล่นที่รวมเอาไว้ในผลงานชิ้นนี้ด้วยแล้ว
ยิ่งทำให้พวกเขาได้แฟนเพลงที่เปิดกว้างมากขึ้น
ในฤดูร้อนปี 2003 Dir en grey
สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนๆ ด้วยการจัดคอนเสิร์ต ณ Akasaka Blitz ที่มีธีมมาจากผลงานเพลงในแต่ละอัลบั้ม
(ยกเว้นอัลบั้มแรก) ก่อนจะมาเป็นอัลบั้ม Vulgar เป็นระยะเวลา 5 วันติดต่อกัน ในชื่อ Akasaka Blitz ‘5 Days’ แถมยังสร้างความพิเศษให้กับเหล่า [a knot] หรือก็สมาชิกแฟนคลับอย่างเป็นทางการของพวกเขา
ด้วยการปล่อยบันทึกการแสดงครั้งนี้ออกมาและสมาชิกเท่านั้นที่จะสามารถควักกระเป๋าจับจองเอามาไว้ในครอบครองได้
และในเดือนกันยายนก็เป็นเวลาของอัลบั้ม Vulgar ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มต้นทัวร์ที่ยาวนานจนกระทั่งปี 2004
เดี๋ยวตอนจบจะตามมาทีหลังนะจ๊ะ ^_^
แสดงความคิดเห็น