音楽と人 2013年 05月
thanks buddycat2 for scan
- ผมได้พูดคุยกับสมาชิกในวงแล้ว และพวกเขาทุกคน ทั้งหมดต่างก็มีความแตกต่างกันไป มันน่าสนใจมากจริงๆ
Kyo : อ่า...ก็อย่างที่คาดไว้ครับ ทุกคนแตกต่างกัน
- ครับ ก่อนอื่นเลยผมอยากถามเกี่ยวกับวง ที่การหยุดพักจบลง และพวกคุณเริ่มต้นทัวร์กันอีกครั้ง คุณจำความรู้สึกในช่วงระหว่างที่หยุดพักทัวร์ได้ไหม ว่ารู้สึกยังไงในช่วงนั้น?
Kyo : แน่นอนครับ ผมเริ่มคิดว่ามันน่าเบื่อ ผมจำมันไม่ได้เท่าไร...คือผมคิดว่ามันเป็นปริมาณความเครียดที่พอเหมาะเลยล่ะ ผมคิดว่างั้น
- คุณไม่ได้มีความกระตือรือร้นในเรื่องนี้เลยเหรอ?
Kyo : ผมคิดว่า อ่า...มันผ่านมานานแล้ว โดยธรรมชาติแล้วผมอยากลืมสิ่งนี้ให้ได้เร็วๆ ดังนั้นผมจำไม่ได้แล้วล่ะ (หัวเราะ)
- เหมือนเวลาที่คุณยืนอยู่บนเวทีหน้าแฟนๆของคุณที่ AX และมันเป็นคอนสิร์ตที่ผ่านมานานแล้ว?
Kyo : ครับ ผมจำไม่ได้ ผมคิดว่าเพราะผมคิดแต่เรื่องอนาคต มันเหมือนกับว่าถ้าผมมองกลับไปในอดีต ผมอยากจะทำให้ตัวผมเองก้าวหน้าไปมากกว่านี้ในอนาคต หรือมันเสียเวลาที่จะพัฒนาตัวเองถ้ายังจะมองกลับไปที่อดีต ผมพูดว่า ผมน่าจะเป็นคนที่ต้องการจะพัฒนาตัวเองให้ก้าวหน้าไปในอนาคต บางครั้งที่ผมมองกลับไปแล้วผมมาคิดว่า "อ่า..มันเป็นอย่างนี้ ดังนั้นต้องทำอย่างนี้" แต่มันเหมือนกับว่า ผมไม่มีเวลาสำหรับเรื่องนั้น ผมเป็นประเภทว่า "ชีวิตวันนี้ดีแล้ว ตอนนี้ทำยังไงให้วันพรุ่งนี้ผมไปถึงจุดสูงสุดได้?"
- ไม่มีเวลาที่เรื่องในอดีตสะท้อนมาเลยเหรอ?
Kyo : ผมคิดว่าเรื่องในอดีตที่สะท้อนกลับมามันก็มีความสำคัญนะ อย่างในมินิอัลบั้มของพวกเรา ที่พวกเราใช้ 6 เพลงจากในเพลงเก่าของพวกเรา แต่สำหรับผมผมคิดเรื่องเกี่ยวกับตัวผมเองที่ผ่านมาแล้วมากกว่า แต่ชีวิตในปัจจุบันมันก็ดีที่สุด ถ้าพูดไปแล้วเมื่อเร็วๆนี้ผมดูคลิปในช่วงครั้งแรกที่พวกเราแสดง Agitated Screams of Maggots ผมดูแล้วก็สงสัยว่าผมรู้สึกยังไงในตอนนั้น แต่ผมไม่ได้คิดอะไรมาก มันเป็นอดีตที่ดีที่สุดกว่าตอนนี้นะ (หัวเราะ)
- ฮาๆๆ
Kyo : ผมมีความสุขมาก ผมไม่ได้คิดเหมือนกับว่า "อ่า...ตอนนั้นฉันน่าจะโกรธมากกว่านี้" "เวลานั้นต้องมีพลังมากกว่านี้" "การแสดงออกทางสีหน้าของฉันดีที่สุดแล้วในตอนนั้น" ผมคิดว่าผมอาจจะมีความรู้สึกที่ต่างไปเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่ทั้งหมด กับเรื่องนั้นผมมาคิดว่า "ตัวฉันในปัจจุบันดีแล้ว ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด" และนั่นยังหมายถึงว่าผมยังคงไม่มีลิมิตกับตัวผมเอง ดังนั้นผมเลยเริ่มที่จะไม่สนใจกับสิ่งที่ผ่านมาแล้ว
- แน่นอนเลยว่าคุณได้เปลี่ยนไปแล้ว คุณมีวิธีการยังไงในการแสดงตัวตนออกมาจากเวลานั้นจนถึงตอนนี้
Kyo : ครับ ในเวลานั้นผมเคยใช้เลือดกับสิ่งต่างๆบนเวที
- มีอะไรที่ทำให้คุณแตกต่างไปบ้างจากเวลานั้นถึงตอนนี้?
Kyo : ผมมีความรู้สึกมากมายในเวลานั้น ผมมองไปยังจุดหมายปลายทางที่แตกต่างในอดีต ผมคิดว่ามันง่ายที่จะระเบิดอารมณ์ความเศร้า หรือโกรธออกมา แต่ในวันนี้ผมต้องการแสดงสิ่งที่มันอยู่ลึกลงไป ไม่ใช่แค่อารมณ์ที่คุณสามารถเห็นได้หรือเข้าใจได้ในทันที ผมมีความรู้สึกที่แท้จริงที่จะก้าวเข้าไปในสถานที่แบบนั้น
- งั้นคุณก็จะหมายความว่าคุณไม่ได้คิดเกี่ยวกับความสำเร็จของคุณในอดีตเลยเหรอ?
Kyo : ครับ แค่ทำสิ่งนี้ ถ้ามีช่วงเวลาที่ผมคิดว่า "ในอดีตผมเจ๋ง" ผมคิดว่าการลาออกจากวงมันคงดีที่สุด สำหรับผมแล้วมันคงเหมือนกับความคิดที่ว่า "ผมไม่ต้องการจะยืนอยู่หน้าทุกคนอย่างนี้แล้ว"
- อย่างที่คุณพูดไว้กับการสัมภาษณ์เมื่อคราวก่อน การแสดงออกของคุณกว้างขึ้น? มันเป็นความปรารถนาเช่นเดียวกับการได้รับสิ่งที่นอกเหนือจากดนตรีงั้นเหรอ
Kyo : ครับ สิ่งที่ผมอยากทำมันค่อยๆมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น
- กับเรื่องนั้นผมคิดว่า บางเวลาคุณคงจะรู้สึกโกรธกับการที่วงจะไปต่อ และการทำบางสิ่งบางอย่างร่วมกับคนอื่นๆ ฯลฯ
Kyo : วงดนตรีตั้งแต่ที่พวกเราทำร่วมกันมามันก็ 16 ปีมาแล้ว แน่ล่ะว่ามันมีความหมายถึงสิ่งต่างๆที่มีความหลากหลาย ถึงแม้เวลานั้นผมจะคิดว่า "ไม่" แต่ก็ยังมีเวลาที่ผมคิดว่า "มันดีนะ" แม้จะมีสิ่งต่างๆที่แตกต่างกันไปในอดีต เหตุผลเดียวที่วงยังดำเนินต่อไปคือ พวกเราสามารถแสดงตัวตนของพวกเราด้วยการเป็นวงดนตรี และในความกว้างก็ยังมีความแคบเช่นเดียวกัน ผมคิดว่าสมาชิกคนอื่นมีความรู้สึกไปในทางเดียวกัน แล้วพวกเราก็ไม่ได้สังเกตช่องว่างใดๆในตัวพวกเราที่รวมกันเป็นหนึ่ง
- พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ มันเป็นข้อตกลงสำหรับพวกคุณ?
Kyo : ใช่แล้วครับ แต่มันเหมือนกับการขยายกว้างและลึกลงไป พวกเรากลายเป็นว่าไม่สามารถรักษาแต่ละเรื่องให้ไปในทิศทางเดียวกันได้ เช่นเดียวกันกับแฟนคลับและคนรอบตัวของพวกเราอยากให้วงของพวกเราเกิดการเปลี่ยนแปลง นั่นหมายความว่าถึงจะป้องกันจากการถูกเกลียดชังในจุดที่ไม่ได้ส่งผลต่อพวกเรา แต่ก็ยังค้นพบในจุดที่เห็นพ้องด้วยกันกับทุกๆคน มันก็ยังคงดำเนินต่อไปด้วยความยาก
- ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ ในทางกลับกันมันก็ผ่านมานานแล้ว คุณเติบโตขึ้น และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น ด้วยเหตุนี้คุณก็มีความตั้งใจที่จะประนีประนอมกันเพิ่มขึ้นด้วยใช่มั้ย?
Kyo : ใช่ครับ ทุกคนก็ชอบที่วงเราเป็นอย่างนั้น การเติบโตกลายเป็นผู้ใหญ่ แน่นอนว่ายังมีคนที่เป็นเหมือนกับว่า "ฉันสามารถเข้าได้กับทุกสิ่งทุกอย่าง" แต่ยังมีคนที่มองจุดนั้นในมุมที่แคบว่า "ไม่ ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลย"
- มันเหมือนการกระจัดกระจาย?
Kyo : เพราะว่าคำแนะนำบางส่วนเป็นของเหล่าแฟนคลับที่ติดตามวงพวกเรามาเป็นเวลานาน และวงก็มีการเปลี่ยนแปลงในตัวเอง สิ่งนี้มันเหมือน "ฉันชอบช่วงระยะเวลาของ Dir en grey" พวกเราเองก็เข้าใจในสิ่งที่พวกเขามองหาในตัวพวกเรา แต่มันก็ไม่ได้เหมาะกับพวกเราไม่ใช่เหรอ พวกเราก็ไม่ได้หมายความว่าจะปฏิเสธแบบขวานผ่าซาก ผมอยากให้พวกเขามองสิ่งเดียวร่วมกันไปกับพวกเรา แน่นอนครับว่าผมต้องการสิ่งนั้นสำหรับสมาชิกในวงด้วย
- คุณต้องการให้มองหาสิ่งเดียวร่วมกันแต่..
Kyo : การมีอายุมากขึ้น ทัศนคติของคนก็อาจจะเล็กลงหรืออาจจะกว้างขึ้น และความสนใจของผู้คนก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกัน ท่ามกลางสิ่งเหล่านี้ Dir en grey ก็ยังคงดำเนินต่อไปด้วยความยากอย่างแท้จริง แต่ยังไงก็ตามพวกเราก็ไม่ได้พูดคุยกันในเรื่องนั้น ในการทำอัลบัม พวกเราไม่ได้พูดคุยกันว่า "เวลานี้ ลองทำอย่างนี้กันเถอะ!" พวกเราจะทำมันในขณะที่พูดคุยไต่ถามแต่ละคนไป และในตอนนี้ โอกาสในแนวทางนี้มันก็สมบูรณ์ ทุกคนยังมีความแตกต่างในเรื่องของผลงานเพลงจากในอดีตที่พวกเราเลือกมาทำใหม่กัน มีความแตกต่างกันโดยแท้ แต่ถ้ามีใครที่พูดเหมือนว่า "มาทำเพลงที่ดูเหมือนว่าแฟนๆจะชอบกันเถอะ" จากนั้นมันเหมือนกับข้อจำกัดของสมาชิกที่ว่าใครต้องการจะทำอย่างนั้น "ใครจะอยากฟังเพลงนี้??" แต่ในเวลานี้เมื่อมีโอกาสมันเลยเหมือนกับเป็นความสำเร็จนิดหน่อย
- ผลลัพท์จากที่ไม่พูดคุยกัน แต่เพียงแต่ไต่ถามแต่ละคนไปเท่านั้น?
Kyo : ครับ ในท้ายที่สุด โดยที่ไม่มีความยุ่งยากอะไรมาก จากความเห็นของเหล่าแฟนคลับกับเพลงที่เอามาทำใหม่พวกเขาสามารถรู้สึกได้อย่างที่พวกเรารู้สึกคือเป็นเพลงที่มีความล้ำค่า
- นั่นเป็นประเด็นที่เข้าใจได้ในพวกคุณทั้งห้าคน
Kyo : ในความสำเร็จก็ใช่แล้วครับ
- ผมคิดเสมอในเรื่องนี้ แต่ถึงแม้ว่าวงของคุณเองจะมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดแต่ก็ยังค้นพบจุดของปัญหาที่เข้าใจได้ คุณไม่มีการพูดคุยกันทำเพียงแค่ไต่ถามแต่ละคนไปเท่านั้น?
Kyo : ทำไมคุณคิดอย่างงั้นล่ะ?
- ง่ายๆคือ ถ้าไม่ได้ทำสำเร็จในแนวทางนั้น วงดนตรีก็คงจะอยู่ไม่ได้ แม้ว่าตามปกติแล้วรูปแบบของวงนั้นจะไม่ดำเนินต่อไปเป็นเวลานานเนื่องจากทั้งหมดมันน่าเบื่อ
Kyo : แต่ว่าสมาชิกทุกคนในวงต่างก็มีบุคลิก และรสนิยมในการฟังเพลงที่ต่างกันออกไป มีชีวิตส่วนตัวที่แตกต่างกัน สำหรับผมไม่แม้แต่จะรู้เบอร์โทร หรือที่อยู่ของคนในวงคนอื่นๆเลย ผมไม่รู้อะไรเลยครับ
- ฮาๆๆๆๆ
Kyo : ผมไม่เคยที่จะพยายามถาม หรือว่าถามออกไป เช่นเดียวกันกับพวกเราทั้งหมดมีความแตกต่างกัน พวกเราทั้งหมดต่างมองไปในทิศทางที่ต่างกันด้วย ดังนั้นถึงแม้พวกเราจะทำเพลงโดยไม่มีการพูดคุยกันเลย มันหมายความว่าพวกเราเข้าใจกันในขั้นตอนสุดท้ายของผลิตผล ผมคิดว่าวงดนตรีประกอบไปด้วยรูปแบบของความสมดุลที่ไม่แน่นอน มันเหมือนกับคอนเสิร์ตของพวกเรา ในแต่ละคอนเสิร์ต พวกเราก็จะมีความคิดที่ต่างออกไปเสมอ บางคนอาจจะคิดว่า "วันนี้ไลฟ์ยอดเยี่ยมมาก!" แต่สมาชิกคนอื่นๆอาจคิดว่า "วันนี้ไลฟ์แย่มาก..." มันเป็นอย่างนั้นเสมอ ยังไงก็ตาม เมื่อความคิดเห็นของพวกเราในวงทั้งหมดตรงกัน มันจะมีชีวิตชีวาทันที หรือบางทีผมอาจจะพูดว่ามันยอดเยี่ยม จากอดีตที่ผ่านมาพวกเราก็ยังเป็นวงที่เป็นแบบนั้นเสมอ
- ในทางตรงกันข้าม วงของคุณและสมาชิกคนอื่นๆต่างก็มีความแตกต่างกันมาก และคุณไม่ได้ออกไปเที่ยวข้างนอกด้วยกันในชีวิตส่วนตัวของคุณ และไม่ได้มีข้อตกลงร่วมกัน แต่ในเรื่องงานแล้วเมื่อบางเวลาที่พวกคุณมีอะไรที่เข้ากันได้ มันไม่ใช่สิ่งที่ทำเสร็จไปแล้วครึ่งหนึ่งเหรอ?
Kyo : ผมรู้สึกว่ามันเหมือนกับระดับที่เพิ่มสูงขึ้น มันยากที่จะเข้ากันกับสิ่งที่ไปร่วมกัน แต่ในขณะที่บรรยากาศของแฟนๆและสมาชิกคนอื่นๆ ฯลฯ ทั้งหมดรวมเข้าด้วยกัน ผมรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งและมากกว่าการมีชีวิตอยู่อย่างแท้จริง มันมากกว่าการที่วงของเราจะมาตัดสินใจในทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้พูดคุยกับคนอื่นๆ
- มันก็อาจจะเป็นอย่างนั้น แต่คุณไม่คิดเหรอว่ามันก็เป็นความสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยงมาก?
Kyo : แต่มันก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่ใช่เหรอ?
- ผมเข้าใจแล้ว แต่คุณก็ไม่รู้ว่าวงจะจบลงเมื่อไร และในความเป็นจริงมันก็เริ่มจะแตกหัก
Kyo : สำหรับพวกเรา พวกเราไม่ใช่วงที่เริ่มจากการรวมกลุ่มของเพื่อนสนิท พวกเราเหมือนกับวงที่รวมกันในนาทีสุดท้าย ผมคิดว่าวงที่เริ่มจากการเป็นเพื่อนกันมันก็ดีเหมือนกัน พูดตรงๆก็คือตั้งแต่ในอดีตผมอิจฉาวงดนตรีที่พวกเขามีสมาชิกจากเพื่อนในชั้นเรียนเดียวกัน หรือคนที่ออกไปเที่ยวข้างนอกกันอย่างปกติ
- อิจฉาเหรอ?
Kyo : ผมคิดว่ามันเป็นภาพที่เห็นความแตกต่างได้ชัดเจนนะ แม้การทำวงดนตรีก็เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่นว่า การพูดคุยกับสมาชิกคนอื่นๆเกี่ยวกับเรื่องที่เป็นความกังวลของผม ใช่มั้ยล่ะ? ผมคิดว่ามันแตกต่างกันมาก แต่ผมก็อยากจะผลักดันตัวเอง ดังนั้นประเภทของวงดนตรีคงไม่มีวงไหนเหมาะกับผมมากเท่ากับวง Dir en grey แล้ว
- คุณกำลังจะบอกถึงความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างจะแย่?
Kyo : ผมมีอุดมการณ์ในระดับที่ต่ำ กับคนรอบตัวผม ผมคิดว่าผมมีชีวิตในแต่ละวันด้วยการคิดที่น้อยที่สุด ผมยังมีความอยากที่ไม่มีสิ้นสุดอยู่เสมอ ผมจะคลานขึ้นมาจากนั่นได้ยังไง แต่ถ้าสมาชิกในวงเป็นเพื่อนร่วมชั้น หรือเป็นเพื่อนสนิทของผม ผมมีความรู้สึกที่ไม่อยากจะมีอุดมการณ์แบบนั้น แต่ในกรณที่สมาชิกในวงไม่มีการแลกเปลี่ยนคำพูด พวกเราทั้งหมดมีอายุที่ต่างกัน และก็ยังมีความสนใจที่ต่างกันด้วย ผมชอบวงดนตรีแบบนี้ครับ คนที่มีความแตกต่างกันรวมอยู่ด้วยกัน พวกเราทั้งหมดสามารถคิดได้ว่าแต่ละคนเป็นคู่แข่งกัน
- สมาชิกในวงก็ยังมีความใกล้ชิดกัน แต่ก็ยังคงมีการแข่งขันกับคนอื่นกันอย่างรุนแรง
Kyo : ครับ ผมเข้าใจได้ว่าวงแบบนั้นเป็นยังไง ที่นั่นมีมากเกินไป แต่สำหรับส่วนตัวผมถ้าไม่ทำงาน ความอยากมากมายของผมมันก็คงจะหายไปจากภายในตัวของผม ผมเลยเป็นเหมือนกับว่า "ฉันหวังว่าทุกคนจะสนุก" "ยังไงก็ตาม ไปหาอะไรกินกันเถอะ!" แม้ว่าจะดูเหมือนสนุก แต่ผมคิดว่าแนวทางของ Dir en grey เหมาะกับผมมากที่สุดแล้ว
- คุณคิดว่าสมาชิกคนอื่นจะยังคงทำ Dir en grey ต่อไปด้วยความคิดเดียวกันนี้?
Kyo : ผมคิดอย่างนั้นครับ ทุกคนมีความมั่นใจในตัวเองสูง
- ใช่ๆ เป็นวงที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ใช่มั้ย? ในระหว่างนั้น คุณไม่สามารถทำอะไรที่คุณอยากจะทำได้ 100% ใช่มั้ย? ดังนั้นคุณไม่คิดที่จะออกจากวง ไปโซโล่คนเดียวเหรอ?
Kyo : ครับ ผมอยากจะทำงานเดี่ยวบ้าง ที่มันแตกต่างไปจาก Dir en grey มีหลายสิ่งหลายอย่างโดยเฉพาะที่ผมอยากจะทำ
- คุณพูดก่อนหน้านี้ ในสิ่งที่คุณไม่ได้ทำ ?
Kyo : แต่ที่พูดอย่างนั้นไม่ใช่ว่าผมอยากจะออกจาก Dir en grey หรือไม่พอใจอะไรนะ...
----
จบแล้ว ^^ มีส่วนไหนผิดพลาดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะเหล่าสาวก บทสัมภาษณ์ยาวดีแล้วก็พูดแต่เรื่องละเอียดอ่อนกลัวผิดเหมือนกัน ฮาๆ แต่อ่านแล้วประทับใจ (ชีประทับใจทุกงาน (〃д〃)きゃ~♪) ถ้ายังไม่เบื่อกันนะ จะพยายามแปลให้ทุกอย่างเท่าที่จะหาให้เลย (จะพยายามหาเวลา =A=) ไว้เจอกันใหม่คราวหน้าจ้า (´ε` )
Kyo : ใช่แล้วครับ แต่มันเหมือนกับการขยายกว้างและลึกลงไป พวกเรากลายเป็นว่าไม่สามารถรักษาแต่ละเรื่องให้ไปในทิศทางเดียวกันได้ เช่นเดียวกันกับแฟนคลับและคนรอบตัวของพวกเราอยากให้วงของพวกเราเกิดการเปลี่ยนแปลง นั่นหมายความว่าถึงจะป้องกันจากการถูกเกลียดชังในจุดที่ไม่ได้ส่งผลต่อพวกเรา แต่ก็ยังค้นพบในจุดที่เห็นพ้องด้วยกันกับทุกๆคน มันก็ยังคงดำเนินต่อไปด้วยความยาก
- ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ ในทางกลับกันมันก็ผ่านมานานแล้ว คุณเติบโตขึ้น และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น ด้วยเหตุนี้คุณก็มีความตั้งใจที่จะประนีประนอมกันเพิ่มขึ้นด้วยใช่มั้ย?
Kyo : ใช่ครับ ทุกคนก็ชอบที่วงเราเป็นอย่างนั้น การเติบโตกลายเป็นผู้ใหญ่ แน่นอนว่ายังมีคนที่เป็นเหมือนกับว่า "ฉันสามารถเข้าได้กับทุกสิ่งทุกอย่าง" แต่ยังมีคนที่มองจุดนั้นในมุมที่แคบว่า "ไม่ ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลย"
- มันเหมือนการกระจัดกระจาย?
Kyo : เพราะว่าคำแนะนำบางส่วนเป็นของเหล่าแฟนคลับที่ติดตามวงพวกเรามาเป็นเวลานาน และวงก็มีการเปลี่ยนแปลงในตัวเอง สิ่งนี้มันเหมือน "ฉันชอบช่วงระยะเวลาของ Dir en grey" พวกเราเองก็เข้าใจในสิ่งที่พวกเขามองหาในตัวพวกเรา แต่มันก็ไม่ได้เหมาะกับพวกเราไม่ใช่เหรอ พวกเราก็ไม่ได้หมายความว่าจะปฏิเสธแบบขวานผ่าซาก ผมอยากให้พวกเขามองสิ่งเดียวร่วมกันไปกับพวกเรา แน่นอนครับว่าผมต้องการสิ่งนั้นสำหรับสมาชิกในวงด้วย
- คุณต้องการให้มองหาสิ่งเดียวร่วมกันแต่..
Kyo : การมีอายุมากขึ้น ทัศนคติของคนก็อาจจะเล็กลงหรืออาจจะกว้างขึ้น และความสนใจของผู้คนก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกัน ท่ามกลางสิ่งเหล่านี้ Dir en grey ก็ยังคงดำเนินต่อไปด้วยความยากอย่างแท้จริง แต่ยังไงก็ตามพวกเราก็ไม่ได้พูดคุยกันในเรื่องนั้น ในการทำอัลบัม พวกเราไม่ได้พูดคุยกันว่า "เวลานี้ ลองทำอย่างนี้กันเถอะ!" พวกเราจะทำมันในขณะที่พูดคุยไต่ถามแต่ละคนไป และในตอนนี้ โอกาสในแนวทางนี้มันก็สมบูรณ์ ทุกคนยังมีความแตกต่างในเรื่องของผลงานเพลงจากในอดีตที่พวกเราเลือกมาทำใหม่กัน มีความแตกต่างกันโดยแท้ แต่ถ้ามีใครที่พูดเหมือนว่า "มาทำเพลงที่ดูเหมือนว่าแฟนๆจะชอบกันเถอะ" จากนั้นมันเหมือนกับข้อจำกัดของสมาชิกที่ว่าใครต้องการจะทำอย่างนั้น "ใครจะอยากฟังเพลงนี้??" แต่ในเวลานี้เมื่อมีโอกาสมันเลยเหมือนกับเป็นความสำเร็จนิดหน่อย
- ผลลัพท์จากที่ไม่พูดคุยกัน แต่เพียงแต่ไต่ถามแต่ละคนไปเท่านั้น?
Kyo : ครับ ในท้ายที่สุด โดยที่ไม่มีความยุ่งยากอะไรมาก จากความเห็นของเหล่าแฟนคลับกับเพลงที่เอามาทำใหม่พวกเขาสามารถรู้สึกได้อย่างที่พวกเรารู้สึกคือเป็นเพลงที่มีความล้ำค่า
- นั่นเป็นประเด็นที่เข้าใจได้ในพวกคุณทั้งห้าคน
Kyo : ในความสำเร็จก็ใช่แล้วครับ
- ผมคิดเสมอในเรื่องนี้ แต่ถึงแม้ว่าวงของคุณเองจะมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดแต่ก็ยังค้นพบจุดของปัญหาที่เข้าใจได้ คุณไม่มีการพูดคุยกันทำเพียงแค่ไต่ถามแต่ละคนไปเท่านั้น?
Kyo : ทำไมคุณคิดอย่างงั้นล่ะ?
- ง่ายๆคือ ถ้าไม่ได้ทำสำเร็จในแนวทางนั้น วงดนตรีก็คงจะอยู่ไม่ได้ แม้ว่าตามปกติแล้วรูปแบบของวงนั้นจะไม่ดำเนินต่อไปเป็นเวลานานเนื่องจากทั้งหมดมันน่าเบื่อ
Kyo : แต่ว่าสมาชิกทุกคนในวงต่างก็มีบุคลิก และรสนิยมในการฟังเพลงที่ต่างกันออกไป มีชีวิตส่วนตัวที่แตกต่างกัน สำหรับผมไม่แม้แต่จะรู้เบอร์โทร หรือที่อยู่ของคนในวงคนอื่นๆเลย ผมไม่รู้อะไรเลยครับ
- ฮาๆๆๆๆ
Kyo : ผมไม่เคยที่จะพยายามถาม หรือว่าถามออกไป เช่นเดียวกันกับพวกเราทั้งหมดมีความแตกต่างกัน พวกเราทั้งหมดต่างมองไปในทิศทางที่ต่างกันด้วย ดังนั้นถึงแม้พวกเราจะทำเพลงโดยไม่มีการพูดคุยกันเลย มันหมายความว่าพวกเราเข้าใจกันในขั้นตอนสุดท้ายของผลิตผล ผมคิดว่าวงดนตรีประกอบไปด้วยรูปแบบของความสมดุลที่ไม่แน่นอน มันเหมือนกับคอนเสิร์ตของพวกเรา ในแต่ละคอนเสิร์ต พวกเราก็จะมีความคิดที่ต่างออกไปเสมอ บางคนอาจจะคิดว่า "วันนี้ไลฟ์ยอดเยี่ยมมาก!" แต่สมาชิกคนอื่นๆอาจคิดว่า "วันนี้ไลฟ์แย่มาก..." มันเป็นอย่างนั้นเสมอ ยังไงก็ตาม เมื่อความคิดเห็นของพวกเราในวงทั้งหมดตรงกัน มันจะมีชีวิตชีวาทันที หรือบางทีผมอาจจะพูดว่ามันยอดเยี่ยม จากอดีตที่ผ่านมาพวกเราก็ยังเป็นวงที่เป็นแบบนั้นเสมอ
- ในทางตรงกันข้าม วงของคุณและสมาชิกคนอื่นๆต่างก็มีความแตกต่างกันมาก และคุณไม่ได้ออกไปเที่ยวข้างนอกด้วยกันในชีวิตส่วนตัวของคุณ และไม่ได้มีข้อตกลงร่วมกัน แต่ในเรื่องงานแล้วเมื่อบางเวลาที่พวกคุณมีอะไรที่เข้ากันได้ มันไม่ใช่สิ่งที่ทำเสร็จไปแล้วครึ่งหนึ่งเหรอ?
Kyo : ผมรู้สึกว่ามันเหมือนกับระดับที่เพิ่มสูงขึ้น มันยากที่จะเข้ากันกับสิ่งที่ไปร่วมกัน แต่ในขณะที่บรรยากาศของแฟนๆและสมาชิกคนอื่นๆ ฯลฯ ทั้งหมดรวมเข้าด้วยกัน ผมรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งและมากกว่าการมีชีวิตอยู่อย่างแท้จริง มันมากกว่าการที่วงของเราจะมาตัดสินใจในทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้พูดคุยกับคนอื่นๆ
- มันก็อาจจะเป็นอย่างนั้น แต่คุณไม่คิดเหรอว่ามันก็เป็นความสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยงมาก?
Kyo : แต่มันก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่ใช่เหรอ?
- ผมเข้าใจแล้ว แต่คุณก็ไม่รู้ว่าวงจะจบลงเมื่อไร และในความเป็นจริงมันก็เริ่มจะแตกหัก
Kyo : สำหรับพวกเรา พวกเราไม่ใช่วงที่เริ่มจากการรวมกลุ่มของเพื่อนสนิท พวกเราเหมือนกับวงที่รวมกันในนาทีสุดท้าย ผมคิดว่าวงที่เริ่มจากการเป็นเพื่อนกันมันก็ดีเหมือนกัน พูดตรงๆก็คือตั้งแต่ในอดีตผมอิจฉาวงดนตรีที่พวกเขามีสมาชิกจากเพื่อนในชั้นเรียนเดียวกัน หรือคนที่ออกไปเที่ยวข้างนอกกันอย่างปกติ
- อิจฉาเหรอ?
Kyo : ผมคิดว่ามันเป็นภาพที่เห็นความแตกต่างได้ชัดเจนนะ แม้การทำวงดนตรีก็เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่นว่า การพูดคุยกับสมาชิกคนอื่นๆเกี่ยวกับเรื่องที่เป็นความกังวลของผม ใช่มั้ยล่ะ? ผมคิดว่ามันแตกต่างกันมาก แต่ผมก็อยากจะผลักดันตัวเอง ดังนั้นประเภทของวงดนตรีคงไม่มีวงไหนเหมาะกับผมมากเท่ากับวง Dir en grey แล้ว
- คุณกำลังจะบอกถึงความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างจะแย่?
Kyo : ผมมีอุดมการณ์ในระดับที่ต่ำ กับคนรอบตัวผม ผมคิดว่าผมมีชีวิตในแต่ละวันด้วยการคิดที่น้อยที่สุด ผมยังมีความอยากที่ไม่มีสิ้นสุดอยู่เสมอ ผมจะคลานขึ้นมาจากนั่นได้ยังไง แต่ถ้าสมาชิกในวงเป็นเพื่อนร่วมชั้น หรือเป็นเพื่อนสนิทของผม ผมมีความรู้สึกที่ไม่อยากจะมีอุดมการณ์แบบนั้น แต่ในกรณที่สมาชิกในวงไม่มีการแลกเปลี่ยนคำพูด พวกเราทั้งหมดมีอายุที่ต่างกัน และก็ยังมีความสนใจที่ต่างกันด้วย ผมชอบวงดนตรีแบบนี้ครับ คนที่มีความแตกต่างกันรวมอยู่ด้วยกัน พวกเราทั้งหมดสามารถคิดได้ว่าแต่ละคนเป็นคู่แข่งกัน
- สมาชิกในวงก็ยังมีความใกล้ชิดกัน แต่ก็ยังคงมีการแข่งขันกับคนอื่นกันอย่างรุนแรง
Kyo : ครับ ผมเข้าใจได้ว่าวงแบบนั้นเป็นยังไง ที่นั่นมีมากเกินไป แต่สำหรับส่วนตัวผมถ้าไม่ทำงาน ความอยากมากมายของผมมันก็คงจะหายไปจากภายในตัวของผม ผมเลยเป็นเหมือนกับว่า "ฉันหวังว่าทุกคนจะสนุก" "ยังไงก็ตาม ไปหาอะไรกินกันเถอะ!" แม้ว่าจะดูเหมือนสนุก แต่ผมคิดว่าแนวทางของ Dir en grey เหมาะกับผมมากที่สุดแล้ว
- คุณคิดว่าสมาชิกคนอื่นจะยังคงทำ Dir en grey ต่อไปด้วยความคิดเดียวกันนี้?
Kyo : ผมคิดอย่างนั้นครับ ทุกคนมีความมั่นใจในตัวเองสูง
- ใช่ๆ เป็นวงที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ใช่มั้ย? ในระหว่างนั้น คุณไม่สามารถทำอะไรที่คุณอยากจะทำได้ 100% ใช่มั้ย? ดังนั้นคุณไม่คิดที่จะออกจากวง ไปโซโล่คนเดียวเหรอ?
Kyo : ครับ ผมอยากจะทำงานเดี่ยวบ้าง ที่มันแตกต่างไปจาก Dir en grey มีหลายสิ่งหลายอย่างโดยเฉพาะที่ผมอยากจะทำ
- คุณพูดก่อนหน้านี้ ในสิ่งที่คุณไม่ได้ทำ ?
Kyo : แต่ที่พูดอย่างนั้นไม่ใช่ว่าผมอยากจะออกจาก Dir en grey หรือไม่พอใจอะไรนะ...
- แต่เมื่อคุณแสดงตัวตนกับคนอื่นๆ ความตึงเครียดก็จะตามมาด้วยแน่นอนใช่มั้ย? คุณไม่สามารถจะทำตามแนวทางของคุณได้
Kyo : ใช่แล้วครับ
- และมันยังเป็นความตึงเครียดกับความสัมพันธ์ร่วมกับคนอื่นๆ เพราะคุณคิดอย่างที่สุดว่าวงจะลงเอยด้วยการถอนตัวออกไป หรือจบลง ไม่มีการพูดอะไรว่าวงนี้พวกเขาเป็นเพื่อนคุณ และคุณทั้งหมดมีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียด แต่อย่างไงก็ตามแต่ไม่มีใครออกจากวงไปแต่ยังคงดำเนินต่อ ทำไมคุณคิดอย่างนั้นล่ะ
Kyo : ครับ ตั้งแต่ทำ Dir en grey มาจนถึงตอนนี้ มีความแตกต่างหลายสิ่งที่ทำให้ผมคิดว่า "เอ๊ะ????" และในเวลาที่ผมคิดอย่างนั้นไปแล้ว สมาชิกคนอื่นๆก็คิดว่า "เอ๊ะ???" ถ้ามีสมาชิกในวงพูด "ก็แค่นั้นล่ะ" และจบไป มันคงไม่มีอะไรที่เราทำได้เลย ถ้ามีใครสักคนพูดว่า ฉันจะหยุดพวกเขา และในทางตรงกันข้ามถ้าผมพูดว่า ผมไม่ต้องการให้ใครมาหยุดผมเหมือนกัน แต่...ผมชอบในความผิดปกติของ Dir en grey แม้ในตอนนี้ผมก็ไม่เคยมีความอยากที่จะเลิก มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมอยากจะทำด้วยตัวผมเอง แต่ผมก็ไม่อยากจะออกจากวง Dir en grey
- คุณคิดว่าสมาชิกคนอื่นๆจะรู้สึกยังไง?
Kyo : ฮืมม.....โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าผมมีอิสระเสรีมากในวง ผมคิดบ่อยๆว่าใครจะทนกับความมีอิสระของผมได้ หรือผมเป็นภาระใครคนอื่นหรือเปล่า ก่อนหน้านี้ผมคิดอย่างนี้
- มันถูกใช่มั้ย?
Kyo : ในขณะที่ผมคิดว่าผมมีอิสระสามารถแสดงสิ่งที่ Kyo Dir en grey สมควรจะเป็น ถ้ามองจากในความเห็นของสมาชิกคนอื่นๆแล้ว พวกเขาอาจจะคิดว่าในส่วนของผมมันก็แค่คนที่เห็นแก่ตัวเท่านั้น
- แต่วงดนตรีพวกเขาก็จะสนับสนุนในสิ่งที่คนตรงหน้าอยากทำ
Kyo : Dir en grey ไม่ใช่อย่างนั้นครับ แน่นอนว่า พวกเราทุกคนเห็นแก่ตัว พวกเราจะคิดว่าพวกเราดีที่สุด แต่...บางคนอาจไม่เป็นอย่างนั้น? ผมไม่รู้ครับ...
- มีหลายสิ่งหลายอย่างที่คุณอยากจะทำ และคุณไม่ได้ต้องการความประนีประนอม ผมคิดว่ามีคนอีกเยอะที่นึกชอบในวงที่เป็นอย่างนี้ มีความผิดปกติกับแนวทางของวง และก้าวหน้าไปโซโล่ การหาความอิสระเสรีอย่างมากมาย
Kyo : อืม...ใช่ครับ
- และทำมันกับคนที่จะทำ ขณะที่พวกเขาบอกนั่นอาจจะหมายถึง มันอาจจะง่ายสำหรับคุณถ้าคุณบอกในสิ่งที่คุณอยากจะทำ
Kyo : อ่า แต่กับ Dir en grey แม้ว่าผมจะคิดว่า "ฉันอยากจะทำอย่างนี้!" จากที่มันแน่นอนมันก็กลายเป็นบิดเบี้ยว และที่มันน่าสนใจ ผมคิดว่านั่นคือ "Dir en grey" ผมคิดว่าสมาชิกคนอื่นๆก็มีความรู้สึกในทางเดียวกัน เมื่อพวกเราทำเพลง ในตอนท้ายมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่วางแผนเอาไว้ นั่นเพราะว่ามันกลายเป็นรูปแบบที่ผิดปกติ แต่ถึงอย่างนั้นทุกคนก็เข้าใจมัน
- ทำไมคุณถึงคิดว่าทุกคนเข้าใจ?
Kyo : บางอย่างที่คุณสร้างขึ้นด้วยตัวของคุณเอง แนวทางที่คุณต้องการ มันเป็นสิ่งเดียวที่คุณจะนึกภาพนั้นออก Dir en grey ก็เป็นอย่างนั้น มันคงจะน่าเบื่อถ้าไม่มีอะไรที่ผิดปกติเลย อย่างที่ผมบอกก่อนหน้านี้
- ดังนั้นในทางกลับกันคือ ทำตามในรูปแบบที่คุณคิด คุณต้องการโดยไม่ได้เป็นความต้องการของวง
Kyo : ไม่ครับ...แต่...วง Dir en grey ยังเป็นที่สุด ที่พวกเราต้องการจะต่อต้านกับคนอื่นๆ
- แต่การทำงานโดยที่ไม่มีการพูดคุยกันเลย มีแค่การถามเจาะลึกกันไปทีละคนเท่านั้น และมันไม่ถูกต้องแน่นอนอย่างที่คุณคาดไว้ คุณไม่คิดเหรอว่าคุณอยู่ในวงที่น่าเบื่อหน่าย?
Kyo : ไม่ครับ เกี่ยวกับการพูดคุยกันทีละคนมันมากกว่าความเหนื่อยนะ เพราะว่าพวกเราไม่มีการพูดคุยกัน มันเลยกลายเป็นธรรมชาติมากขึ้น ธรรมชาติตรงนั้นเลยกลายเป็นบางอย่างที่หลากหลายไปจากที่ผมต้องการ ยกตัวอย่างเช่น เพลงนี้อินโทรยังไม่เสร็จ ผมคิดว่า "ผมอยากจะทำแบบนี้" และอยากจะใส่ถ้อยคำลงไป แต่บางอย่างมันเสร็จสมบูรณ์ต่างไปจากที่ผมต้องการ แต่มันก็ถูกปล่อยออกมาโดยสมาชิกคนอื่นๆ เมื่อมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้น ผมจะคิดว่า "นี่มันต่างไปจากที่ผมต้องการ จากนี้ผมสามารถเปลี่ยนอินโทรมาเป็นแบบที่ผมเข้าใจได้ยังไง?"
- ทุกคนทำแบบนั้น?
Kyo : ยังไงก็ตามแต่ ไม่มีการสนทนากัน มันถึงได้น่าสนใจ
- เมื่อบางอย่างเหมือนจะเข้าใจซึ่งกันและกันในระหว่างพวกคุณทั้งห้า อย่างที่กล่าวก่อนหน้านั้น ทันใดนั้นมันก็เป็นเพลงที่ยอดเยี่ยม หรือเป็นไลฟ์ที่ยอดเยี่ยมอย่างนั้นใช่มั้ย?
Kyo : ครับ ผมคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น แม้จะคิดกันว่าวงนี้น่าเบื่อหน่าย ผมก็จะไม่หยุด ตราบเท่าที่พวกเรายังสามารถจะทำสิ่งนั้นได้
- ทัวร์ครั้งสุดท้ายของปีคุณเล่นที่ Tokyo international forum ใช่มั้ย? เป็นไลฟ์ที่น่าประทับใจมาก ในชั่วขณะนั้นเป็นอะไรที่มีความแตกต่างมาก เหล่าคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงรวมกันเป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์ ให้ความรู้สึกถึงความสามัคคีในระหว่างพวกคุณทุกคนในการรวมฝูงชนเข้าด้วยกัน แน่นอนผมคิดว่ามีอะไรบางอย่างนะที่จะทำให้วงต้องหยุดลง คุณคิดว่าไง?
Kyo : ไม่ ผมจะไม่พูดอย่างนั้น เพราะว่าในเวลานั้นทิศทางของพวกเราทั้งห้าเป็นไปอย่างธรรมชาติ แน่นอนว่าพวกเราก็รวมเข้ากับแฟนๆได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
- คุณเองในปัจจุบันก็ดีเช่นกัน มีความแข็งแกร่ง สามัคคีกันในวง นี่คือวิธีการที่ตอนนี้คุณมีส่วนร่วมอยู่ในนั้น?
Kyo : ไม่ครับ พวกเราก็ไม่ได้เปลี่ยนกันไปมาก ในความเป็นจริงมีหลายสิ่งที่ทำให้พวกเราไม่มีกะจิตกะใจ พวกเราตัดสินไปเล่นในงานเทศกาลที่ยุโรป แต่ยังไม่เคยคิดเกี่ยวกับพวกเขาทั้งหมดเลย พวกเราเริ่มจะไม่คิดว่า"ตั้งแต่พวกเราเล่นไลฟ์ที่ต่างประเทศ พวกเราก็ไปทางนี้กันเถอะ" พวกเราทำมันโดยธรรมชาติ มันเลยกลายเป็นบางอย่างที่ผิดปกติไปจากเส้นทางของพวกเรา มันเหมือนจะโอเคถ้าพวกเราไม่ได้คิดอะไรมาก ในสถานที่แรกที่ไปผมคิดว่ามันแปลกๆ แต่ผมก็สงสัยเหมือนกันว่าสมาชิกคนอื่นๆก็จะคิด...
- ก็จริงล่ะ
Kyo : ครับ ผมคิดว่าพวกเขารู้ว่าพวกเราทำอัลบั้มเสร็จแล้วก็จะทัวร์ และหลังจากนั้นผมก็ไม่รู้ครับว่าทุกคนมีความคิดยังไงในตอนนั้น ในทางกลับกันผมก็ไม่ได้กังวลอะไร หลังจากเมื่อพวกเราได้มีการปรึกษากัน และวางแผนทั้งปีของพวกเรา พวกเขาก็จะมาบอกเรา จนกว่าจะถึงเวลานั้นผมก็ไม่รู้ว่าทุกคนเค้าคิดอะไรกัน อาจจะมีบางคนที่อยากจะทัวร์ให้มากขึ้น หรือบางคนที่อาจจะคิดว่าแค่นี้ก็พอแล้ว ผมก็รู้น้อยพอๆกับที่แฟนคลับรู้ล่ะครับ
- ถ้าไม่ได้มองอย่างผิวเผิน สถานการณ์ของวงในปัจจุบันมีสิ่งที่เหมือนกับความสามัคคีของวง หรือไม่ก็พวกคุณทั้งหมดที่มองไปในทางเดียวกัน
Kyo : ใช่แล้วครับแม้ว่าผมจะมองเห็นเป็นอย่างนั้น แต่ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากว่า "อย่างนั้นเหรอ"
- ตั้งแต่ที่ผมได้พูดคุยกับสมาชิกคนอื่นๆผมคิดว่าพวกคุณมีการจัดการที่ดี ที่จะดำเนินวงต่อไปโดยไม่มีการแยกวง
Kyo : ครับ มันเป็นเรื่องจริงที่สุดไม่ใช่เหรอ ผมคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้ว 16 ปี
- ทำไมคุณถึงคิดว่าวงจะไม่หยุด แต่จะดำเนินต่อไป?
Kyo : อาจจะ เพราะว่า พวกเราทั้งห้าคนเป็นคนที่เห็นแก่ตัว แต่ในท้ายที่สุดพวกเราก็คิดเกี่ยวกับคนอื่นๆ มันเหมือนกับเพราะว่าพวกเราไม่มีการพูดคุยกัน พวกเราทั้งหมดเข้าใจกัน แม้พวกเราจะมีความคิดที่ว่า "ฉันอยากจะทำสิ่งนี้" "ฉันอยากจะทำสิ่งนั้น" ถ้าพวกเรายังเป็นวงแบบนั้นเสมอหลังจากนั้นอะไรจะเกิดขึ้น? ในทางตรงกันข้ามเพราะพวกเรามีความรู้สึกที่ให้อภัยซึ่งกันและกัน เพราะว่ามันเป็นเหมือนกับพื้นฐานของพวกเรา ที่พวกเราจะสามารถไปต่อกันได้โดยที่ไม่ต้องมีการพูดคุยอะไรกัน ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งทียิ่งใหญ่นะ
- ดังนั้นคุณก็นำสิ่งนั้นมาใช้กับคุณด้วย?
Kyo : ครับ ผมก็คิดว่างั้นนะ แน่นอนว่ามันมีสิ่งที่ผมไม่เข้าใจ เหมือนกับมีหลายครั้งที่ผมคิดว่า "นี่มันเรื่องห่าอะไร??" แต่ในตอนท้ายผมก็สามารถคิดได้ว่า "เอาล่ะ ฉันคิดว่ามันโอเคละ ฉันคงจะเข้าใจมันในสักวัน" หรือ "พวกเราทำสิ่งเหล่านี้ร่วมกันมามากกว่า 10 ปีแล้ว ความผูกพันต่างๆมันเป็นอย่างนี้" หลังจากนั้นมา ผมเข้าใจว่าผมก็เป็นสมาชิกในวงที่มีความเป็นอิสระมากที่สุด และสมาชิกคนอื่นๆก็ยังคงสนับสนุนผมโดยไม่มีการพูดอะไร
- คุณสามารถรู้ได้ถึงความคิดของพวกเขา?
Kyo : เพราะว่า พวกเราเหมือนกับครอบครับ แน่ล่ะว่าคุณไม่ได้พูดถึงครอบครัว หรือพี่น้องของคุณ ผมรู้สึกเหมือนกับใกล้ชิดสิ่งเหล่านั้น แม้ว่าจะมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น คุณจะคิดได้ว่า "เอาล่ะ ไม่เป็นไร"
- นี่ก็เป็นสิ่งที่ผมได้ฟังจากพวกคุณนะ แต่ความสัมพันธ์ของพวกคุณมันเหมือนกับบางอย่างที่เหมือน "ความอดทน"
Kyo : ฮาๆๆๆ มันอาจจะเป็นเรื่องจริง
- มันเหมือนกับที่พวกคุณทั้งหมดอยู่ในตู้อบซาวน่า และคุณอยากจะออกมา แต่ทุกคนมีความพยายามร่วมกัน (หัวเราะ) เมื่อพวกคุณมีความพยายามร่วมกันอย่างนั้น คุณสามารถทำสิ่งซึ่งไม่คุ้นเคยให้ดีเยี่ยมได้ คุณทั้งหมดเลยขยายความตั้งใจที่นำตัวพวกคุณไปสู่ความสำเร็จ
Kyo : ไม่สำคัญว่าผมจะคิดว่าผมดีที่สุดยังไง ผมสามารถชื่นชมกับสิ่งที่สมาชิกในวงทำ ผมจะทำอย่างนั้น แม้ผมจะคิดว่า "เขาแย่มาก" หลังจากที่ผมออกจากห้องซาวน่าแล้ว แม้จะพูดอย่างนั้น ผมคิดว่าพวกเรารู้สึกได้ถึงความซาบซึ้งในสิ่งที่สมาชิกคนอื่นๆทำ
- ถ้าพวกคุณไม่เป็นอย่างนั้น คุณคงไม่สามารถทำไลฟ์แบบที่ Tokyo International Forum ได้ หรือทำเพลงแบบที่พวกคุณทำ ในท้ายที่สุดผมคิดว่าพวกคุณทั้งหมดมีความรู้สึกที่อยากจะทำให้ Dir en grey เดินหน้าต่อไป
Kyo : แน่นอนครับ ผมจะทำ Dir en grey ต่อไป และผมรู้สึกว่าในมินิอัลบั้มนี้ได้มอบปีกใหม่ให้กับพวกเรา ผมยังคงเฝ้ารอคอยที่จะเห็นผลิตผลของ Dir en grey และที่ไกลออกไป ก็...ผมไม่คิดว่าวงอื่นๆจะมีความสัมพันธ์แบบวงพวกเรานะ มันเป็นสิ่งที่ล้ำค่า
- ครับ คุณรักวงนี้ใช่มั้ยล่ะ?
Kyo : แล้วมันไม่ถูกเหรอ? ผมคิดว่าผมรักอย่างแน่นอน ผมไม่รู้อะไรเป็นการส่วนตัวนะ (หัวเราะ)
- ผมคิดว่าผมก็พูดคุยกับสมาชิกคนอื่นๆเช่นเดียวกัน แน่นอนอยู่แล้วไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกคุณทั้งหมดเป็นแบนด์แมน และพวกคุณทั้งหมดรักวงของพวกคุณ
Kyo : สมาชิกคนอื่นๆเป็นยังไง?
- สิ่งที่ทุกคนมีร่วมกันคือความรู้สึกอย่างแรงกล้าที่มีต่อวง
Kyo : เหมือนกับสิ่งล้ำค่าของพวกเขา?
- แต่พวกเขาก็ยังคงมีความรู้สึกว่าขาดสิ่งที่มีค่าในตัวของพวกเขาเอง และวงเริ่มจะมีความเหนื่อยหน่าย และพวกเขาจะบากบั่นเพื่อสิ่งนั่น
Kyo : อ่าา.....
- แต่ว่าผมก็รู้สึกเช่นเดียวกันนะว่า ทุกคนมีความภาคภูมิใจในวงมาก
Kyo : พวกเราเป็นวงที่มีความซับซ้อนมากจริงๆ (หัวเราะ)
จบแล้ว ^^ มีส่วนไหนผิดพลาดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะเหล่าสาวก บทสัมภาษณ์ยาวดีแล้วก็พูดแต่เรื่องละเอียดอ่อนกลัวผิดเหมือนกัน ฮาๆ แต่อ่านแล้วประทับใจ (ชีประทับใจทุกงาน (〃д〃)きゃ~♪) ถ้ายังไม่เบื่อกันนะ จะพยายามแปลให้ทุกอย่างเท่าที่จะหาให้เลย (จะพยายามหาเวลา =A=) ไว้เจอกันใหม่คราวหน้าจ้า (´ε` )
+ comments + 5 comments
ขอบคุณมากเลยค่ะ m(_ _)m
เป็นวงที่น่ากลัวจริงๆ ฮ่าๆ
ฟินสุดๆ ขอบคุณมากจ้าาา
ขอบคุณค่า
นี่สินะความเป็นวง Dir en grey ขอบคุณมากครับ ^^
เเนวคิดเเละระดับความสัมพันธ์คล้ายๆลาร์คเลยค่ะ ไม่กอดคอเย้วๆ ไม่มีกระทั่งเบอร์โทรหรืออีเมลล์ซึ่งกันเเละกัน ไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว เเต่มี DIR EN GREY เเละความรักในงานเพลงเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ เเล้วก็กลายเป็นสิ่งที่เชื่อมให้พวกเขาผูกพันกันโดยปริยาย ซึ้งใจมั่กๆ T^T
ขอบคุณมากๆสำหรับบทความเเปลดีๆค่ะ
แสดงความคิดเห็น