post:

Home » , » DIE MEISYO DE MEISYU Vol 50

DIE MEISYO DE MEISYU Vol 50




by Demonxpd , Baskasama


Haiiro no Ginka vol. 50! ผมไม่เคยคิดเลยว่ามันจะดำเนินมาได้ยาวขนาดนี้ เอาล่ะ ผมจะเขียนความคิดผมและความรู้สึกลงไป ในช่วงระหว่างเวลาที่ผมพูดคนเดียวนี้ ผมพาคุณมายังคอลัมณ์นี้ “Meisho de Meishu’s” อดีตที่ The Macallan ในกินซ่า สถานที่มากมาย เหมือนกับชื่อคอลัมณ์นี้



- คุณจำจดหมายข่าวแฟนๆเมื่อครั้งเริ่มต้นได้มั้ย ในเล่ม 10 ระหว่าง TOUR 00>>01 MACABRE brain gain(er) brain drain(er)” ในคานาซาว่า คุณไปที่ Kenrokuen

Die : ผมจำได้ว่าไป ผมสวมหมวก Kenrokuen แล้วก็กินโมจิล่ะ (หัวเราะ)


- แล้วก็ยังมีการถ่ายภาพ สำหรับหนังสือภาพด้วย

Die : ใช่แล้ว (ดูบางส่วนในเล่ม 10) ผมจำได้ว่ารูปในหน้านั้นเป็น cold balm (kimura)หลังจากนั้นแฟนๆ ก็เอาภาพจากจุดนั้นมาล้อเลียนและก็ส่งมา


-คุณจำที่ Izakaya ที่คุณไปหลังจาก Live ใน Akita ได้มั้ย?

Die : ขนมปัง กับไอศกรีมที่วางข้างบน เรียกว่า ヒマラヤ (himaraya) ใช่มั้ย นั่นน่ะอร่อยมาก ที่นั่นมีสถานที่พบปะมากมายที่พวกเราใช้เป็นครั้งในระหว่างทัวร์ หลังจากที่เราเลื่อนเวลาปล่อย Macabre และทุกสิ่งทุกอย่างใหม่ ผมคิดว่านี่คือตอนที่เรากำลังเดินทางไปที่นีงาตะ พวกเราอยู่บนรถไฟชินคันเซน และเมื่อเข้าไปในอุโมงค์และออกมา ทิวทัศน์ทุกอย่างเป็นสีขาวโพลน ตอนนี้ผมก็ยังจำได้อย่างชัดเจนว่าเป็น “Winter Wonderland”


-Documentary Live Dvd และ video TOUR 00>>01 MACABRE คุณเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ใน Kogoshima ใช่มั้ย

Die : ผมคิดว่ามันเป็น Cessna (เครื่องบินใบพัด)(หัวเราะ) ห้องโดยสารก็เล็กมาก หัวของผมจะชนถ้าผมยืนขึ้น และถ้าผมไม่ได้เข้าใจผิด พวกเราจ่ายค่าเช่าและผู้โดยสารมีเพียงสมาชิกและ staff ผมคิดจริงๆว่าเครื่องบินจะชน มันเป็นการทัวร์ที่ค่อนข้างยาวนาน กับการทัวร์ก็เช่นกัน เป็นช่วงเวลาและประสบการณ์ที่มากสุดกว่าหลายสิ่ง


- จากเล่ม 11 และเล่ม 13  ในการปรึกษาเรื่องการควบคุมน้ำหนักของคุณ คุณได้ให้รายละเอียดและตอบคำถามกับแฟนๆ

Die : ผมบอกว่าจะตอบทุกคำถามที่ผมได้รับ แต่มันมีมากจนเกินไป มันเหมือนกับ "ว๊ากก ผมไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้น" (ยิ้มแหยๆ) แต่จริงๆแล้วผมตอบคำถามทั้งหมด ผมอ่านทุกอย่างที่ส่งมา และสรุปคำถามที่ผมคิดว่า "คำถามนี้เหมือนกัน" ในตอนนั้น ผมไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์ ดังนั้นผมจึงเขียนด้วยลายมือทั้งหมด ผมเขียนไปกว่า 400 ตัวอักษร ในกระดาษต้นฉบับ (หัวเราะ) มันไม่ได้เป็นเรื่องยากที่จะใช้คำให้ชัดเจน ผมคิดว่า "สงสัยว่าถ้านี่มันถูกต้อง ผมเขียนอย่างนี้ มันผิดมั้ย" และผมก็แก้และปรับปรุงมันใหม่หลายรอบ  แต่ตั้งแต่ที่ผมบอกว่า ผมจะทำมัน ผมจะทำทุกอย่าง และในตัวมันเองทำให้ผมคิดว่า นั่นมันน่าทึ่งจริงๆ (หัวเราะ) ในทางตรงกันข้าม ถ้าถามเด็กที่ถามคำถามผมว่า ที่นั่นมีคำถามของใครที่ไม่ได้รับคำตอบ ผมคิดว่าพวกเขาจะตอบว่า "ไม่" นั่นคือสิ่งที่ผมตอบอย่างจริงจัง แต่ว่ามันใช้เวลาไปมากจริงๆนะ ถ้าผมทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ผมคงไม่มีความสามารถที่จะอยู่ในวงต่อได้แน่ (หัวเราะ)


-คุณมีอาการเอ็นอักเสบที่ข้อมือ ใช่มั้ย?

Die :มีช่วงนึงที่ผมคิดว่า "นี่มันไม่ใช่สิ่งที่ต้องตรงไปตรงมาก็ได้" แต่แท้จริงแล้ว สิ่งที่ผมต้องบอกกับตัวเองก็คือ ผมเกลียดการโกหกตัวเอง (ก็เป็นสินะ TAT)


-ผมคิดว่าเป็นเรื่องดีนะที่ทุกคนมารวมกันเป็น DIR EN GREYแล้วมีพวกในวงที่ชอบคุยโวมั่งไหม?

Die: ก็คนพวกนี้ก็มีถมไปล่ะ แต่ถ้าต้องรวมวงที่มีคนพวกนี้ด้วย ผมก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะเป็นวงแบบไหน แต่จริงๆแล้วผมก็ไม่ได้ไม่ชอบใครเป็นการส่วนตัวเลยสักนิดนะ เป้าหมายคือการรวมตัวของทั้ง 5 คน แต่ถ้ามีคนที่ผมไม่ลงรอยด้วย มันก็คงยากที่จะให้วงอยู่ด้วยกันนานๆ


- จากในเล่มที่ 30 ที่พวกคุณออกไปต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ได้ไปต่างประเทศเพื่อทัวร์  ชีวิตการเปลี่ยนแปลง กับการรับรู้และแนวทางของวงดนตรีคุณเป็นยังไงบ้าง

Die: มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งนะ มีบ่อยในบทสัมภาษณ์ของต่างประเทศที่ใช้คำว่า "ประสบความสำเร็จ" แต่ไม่ได้มีสิ่งไหนที่บอกว่าวงดนตรีประสบความสำเร็จ ผมมักจะคิดและพยายาม ท้าทายด้วยตัวเองกับคำว่า "ความสำเร็จ" มันเหมือนบทสรุป ที่ผมไม่ชอบมันเลย มันเหมือนความรู้สึกของผมต้องการจะหยุด  มันดีหน่อยเนื่องจากเราได้รับการปฏิบัติที่อ่อนโยนตลอดเวลา แต่ผมจะโกรธนะถ้ามีใครมาบอกว่า ผม "ประสบความสำเร็จ"  จริงๆพวกเรายังไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไร พวกเรายังต้องการที่จะท้าทายตัวเองมากขึ้นไปอีก (หัวเราะ)


-ผมยังเห็นพวกคุณทัวร์ที่อเมริกาเหนือ และยุโรปหลายครั้ง แต่ที่ญี่ปุ่นกับต่างประเทศแตกต่างกันมาก และยังมีผู้ชมที่ออกไปในทิศทางอื่นเสมอใช่มั้ย?

Die : พวกเขามักจะถามพวกเราตลอดในการสัมภาษณ์ของต่างประเทศ "อะไรคือความแตกต่างระหว่างแฟนๆต่างประเทศกับประเทศญี่ปุ่น" แต่ผมคิดว่าพวกเขาเหมือนกัน แต่ผมจะประหม่ามากเวลาจะขึ้นเวทีในญี่ปุ่น


-เอ๊ะ ทำไมล่ะ?

Die : ผมรู้สึกเหมือนว่าผมจะมองเห็นคนมาก มันจริงนะ(หัวเราะ) ในต่างประเทศก่อนจะเริ่มไลฟ์ พวกผู้ชมจะมีอารมณ์ร่วมและให้ความสนใจมาก พวกเขาจะร้องเรียก "“DIR EN GREY! DIR EN GREY! DIR EN GREY!” มันเหมือนกับ "อ๊าา ทุกคนพร้อมแล้ว" นอกจากนี้ภาษาและวัฒนธรรมของพวกเราแตกต่างกันอย่างสมบูรณ์แต่พวกเราก็พยายามที่จะเชื่อมต่อกับพวกเขา มันง่ายต่อการที่จะรับในนั้น


-มันแปลกใช่มั้ย? ที่พวกเขาจ่ายเงินค่าตั๋วเข้าไป แต่พวกเขาไม่เข้าใจภาษา และเข้าไปเจอกับพวกคุณเป็นครั้งแรกใน House of Blues ที่ Chicago สถานที่เหมือนกับบาร์ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้จักวงดนตรีและการแสดงอะไร มันเหมือนกับว่า "ตอนนี้พวกเขากำลังทำอะไรกันนะ?" และผู้คนท้องถิ่นจะเข้ามาข้างใน และได้รับอารมณ์ร่วมจนเหมือนกับ "เป็นโชว์ที่ยอมเยี่ยม" มันต่างจากประเทศญี่ปุ่นมากที่เวลาไปไลฟ์ ดนตรีประจำของพวกเขา และยังรวมไปถึงความบันเทิงต่างๆที่เป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิต ผมคิดว่าญี่ปุ่นค่อนข้างแตกต่าง แม้แต่เด็กที่ต้องการจะไปดูไลฟ์ และเด็กที่ไม่รู้จักอะไรเลยว่ามันเคยเกิดขึ้นในชีวิตพวกเขา ผมคิดว่าที่นั่นมีโอกาสมากขึ้นในอเมริกา

Die : จริงๆเลยคือสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง นักดนตรีที่นั่นก็เริ่มเล่นเครื่องดนตรีกันตั้งแต่เด็กด้วย


- พูดถึงสภาพแวดล้อมคนอเมริกัน ระยะทางโดยรถยนต์  "ฉันจะไปถึงในเร็วๆนี้นะ" อาจจะประมาณ 6 ชั่วโมง ใช่มั้ย? ถ้านั่นเป็นคนญี่ปุ่นพวกเขาคงจะคิดว่า "ห๋า..." แต่สำหรับเขาคิดว่า 6 ชั่วโมงใกล้ (หัวเราะ)

Die : แน่ล่ะ เพราะสถานที่ที่คุณจะพบกันเพื่อดื่มในอเมริกามันจะเป็นเมืองใหญ่ๆ อย่าง Los Angeles New York ...เป็นต้น พวกเขาขับรถหลายกิโล พวกเขาจะไม่ดื่ม


- เกี่ยวกับต่างประเทศที่พวกคุณไปทำกิจกรรม ผมคิดว่ามันน่าสนใจดี คุณไม่คิดจะไปสถานที่ ที่คุณไม่เคยไปมาก่อนบ้างเหรอ อย่าง ซาอุดิ อาระเบีย

Die : ซาอุดิอาระเบีย (หัวเราะ) ผมไม่คิดว่าเราจะไป ผมคิดว่าเรายังไม่ได้ไปเล่นที่อื่นนอกเหนือจากเอเซีย ยุโรป และอเมริกา ใช่มั้ย? ไม่เพียงเท่านั้น มันอาจจะเป็นครั้งแรกที่วงดนตรีญี่ปุ่นไปที่นั่นเพื่อโชว์ ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ว่านั่นคือครั้งแรก มันไม่ควรที่เราจะพยายามไปสถานที่นั้น? สถานที่เหล่านั้นที่ยังคงไม่ถูกเหยียบย่ำ


- ความจริงในเร็วๆนี้ เมื่อตอนที่ผมเข้าร่วมกับบริษัทและพวกคุณตั้งสถานที่ที่จะไปในยุโรป และอเมริกา คำว่า "ความเจ็บปวด" เขียนในหน้าแรกของ homepage ในเวลานั้น นั่นเป็นหัวข้อเหรอ

Die : หลายปีมานี้หลังจากที่พวกเราผลักหัวข้อ "ความเจ็บปวด" ให้อยู่ในแถวหน้า เมื่อเราไปต่างประเทศ กับรูปแบบที่ว่า "ความเจ็บปวด" ผมคิดว่าพวกเราเน้นตรงนั้นมากเกินไป แต่มันก็มีมากขึ้น เหมือนกับเราทำให้มันตายตัว มันไม่ดีกว่าเหรอถ้าเราจะทำให้มันเป็นอิสระ ในปัจจุบันกับสมาชิกผมคิดว่ามันดีแล้ว เพราะว่าพวกเราอยู่ในวงด้วยกันมานาน นั่นล่ะทำไมผมถึงยังคงทำสิ่งเหล่านี้ร่วมกัน ผมคิดว่ามันดีที่สุดแล้ว


- เพราะสมาชิกทุกคนในวง พวกเราถึงมีปัจจุบันนี้ใช่มั้ย?

Die : ใช่ ไม่เพียงแต่สิ่งที่พวกเราทำไปแล้ว(หัวเราะ) นักดนตรีคนอื่นๆรอบตัวพวกเราก็ทำสิ่งที่เหมือนกับงานโซโล่ แต่สำหรับพวกเรา จะทำเพียงแค่ DIR EN GREY เท่านั้น แล้วผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่พวกเราแข็งแกร่ง


-นั่นคือสิ่งที่ DIR EN GREY สร้างในปัจจุบัน

Die : ใช่ ไม่เพียงแค่พวกเราสร้าง พวกเรายังต้องเผชิญหน้ากับวงที่เรียกว่า DIR EN GREY เมื่อ DIR EN GREY เริ่มเติบโตขึ้น และมาเปรียบเทียบกับพวกเรา พวกเขาจะบอกว่า "DIR EN GREY เป็นวงดนตรีที่สุดยอด"  "พวกคุณทำอัลบั้มที่ยอดเยี่ยม" เวลาที่ผู้คนรอบๆตัวพูดแบบนั้น ผมจะพูดว่า "อ่าา นี่พูดเกินจริงไปหรือเปล่า" (หัวเราะ) ผมคิดว่าการเดินไปอย่างมั่นคงบนทางที่ไม่ต้องสูญเสีย มันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก


-ผมสงสัยว่า จากนี้ดนตรีจะเปลี่ยนไปอย่างไร

Die : เมื่อไม่กี่ปีมานี้ digital music เริ่มมาเป็นกระแสหลัก ค่าของ CD ก็เริ่มต่ำลง แต่สำหรับพวกเราการออกแบบเสื้อ รวมทั้งห่อบรรจุ CD เป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน


-สำหรับศิลปิน คุณรู้สึกอย่างไรกับยุคสมัยนี้
Die : ในอดีตยอดขาย CD มีความสำคัญมาก แต่ผมคิดว่าไลฟ์เริ่มเป็นกระแสหลัก ผมคิดว่าไม่เป็นไรนะ มันดีกว่าถ้าให้ทุกคนได้เข้ามาในไลฟ์จริงๆ ที่ผู้ชมจะได้เห็นและได้ยิน และรู้ว่าสิ่งนี้มันดี หรือไม่ดียังไง ผมคิดว่าเป็นการตัดสินใจที่ดี ดีสำหรับเพลง และซีดีที่ขาย บางสิ่งมันเหมือนกับจะลดลง และผมรู้สึกว่า พวกเราสามารถเห็นได้ถึงสาระสำคัญของสิ่งนั้น ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีถ้าวงได้มีไลฟ์ที่ดีและเป็นที่นิยม ง่ายๆเลยคือ ผมคิดว่าแฟนๆในไลฟ์น่ะต้องการที่จะมาอยู่ในสถานที่เดียวกัน นั่นคือสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว ผมว่าศิลปินที่จะหาคุณค่าของความเป็นศิลปินที่แท้จริงได้ มาจากตรงนี้ล่ะ พวกเราสามารถเห็นถึงแก่นแท้ของดนตรี และไม่หลอกลวงที่จะไม่ทำงาน



-ไลฟ์กับสถานที่ไหนที่คุณรู้สึกได้ถึงความเป็นมนุษยธรรม ผมรู้สึกว่าความรู้สึกตื่นเต้นแบบนี้ไม่เป็น digital

Die: ในท้ายที่สุด โลกของเราจะเคลื่อนไปตาม digital music และนั่นล่ะทำไมผู้คนถึงได้ต้องการความอบอุ่นของดนตรี มีบางอย่างที่เป็นดิจิตอลดนตรีทั้งหมด และนั่นมันก็สมบูรณ์แบบมากจนเกินไป ในทางตรงกันข้ามเพลงนั้นก็เกิดขึ้น มันดูสับสนวุ่นวาย และเพราะมันวุ่นวาย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่มีมากมายของสิ่งหลายๆอย่างที่สร้างอนาล็อคดนตรีขึ้น เพราะมนุษย์ไม่ได้สมบูรณ์แบบ มันเป็นข้อบกพร่อง และเหตุผลที่เราพยายามจะเติมเต็มในช่องว่างของแต่ละสิ่งให้เต็ม


-พวกเขาเรียก "ความเป็นมนุษย์" มันค่อนข้างดีใช่มั้ยที่ทุกคนจะไม่กลายเป็นหุ่นยนต์มากขึ้น

Die : ถูกแล้วล่ะ ที่ว่าทำไมสิ่งนั้นถึงเรียกว่า "หัวใจ" หายไปเหมือนกับอารมณ์ความรู้สึก  สิ่งที่สำคัญที่สุดหายไป ตั้งแต่คุณส่งอีเมล์ คุณไม่ได้เปลี่ยนคำพูดอะไรมากมาย ในอดีตผมจะไปใช้โทรศัพท์สาธารณะ ที่ใช้ 10เยน ในการโทรกลับบ้าน


-มันกลายเป็นความสะดวกมากขึ้น ในความไม่สะดวกหรือความรู้สึกที่มีความจำเป็นพื้นฐานของมนุษย์ลดลง

Die : แต่ตอนนี้กลายเป็นว่า "อะไรคือโทรศัพท์สาธารณะ" "อะไรคือเพจเจอร์ อะไรคือโทรศัพท์ PHS?" ในเวลานั้นผมถามตัวเองว่า "ฉันทำอะไรเนี่ย?" (หัวเราะทั้งคู่)


-สถานที่แนะนำในโลกเหมือนกับ "Doraemon" จะค่อยๆกลายเป็นความจริง เหมือนกับ "Star Wars" หรือยุคนีโอฟิวเจอร์ริสติค สินะ

Die : มันเหมือนกับจะใกล้เข้ามาแล้วนะ


-จริงๆแล้ว หนทางการอยู่รอด อาจจะต้องฝืนไปตามกระแส พวกเราปรารถนามนุษย์ที่มีคุณภาพ ในระบบ digital music

Die : มันเพราะยุคดิจิทัลได้เติบโตและก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แต่โทรศัพท์มือถือเริ่มบางลงมากกว่า 15 ปีที่แล้ว ผมคิดว่าการพับโทรศัทพ์มือถือที่ผมใช้ไปก่อนหน้านี้เหมือนกับกล่องบุหรี่ 2 อัน (หัวเราะ) ครั้งแรกหน้าจอขาวดำทั้งสองอัน และหลังจากนั้นก็เพิ่มริงโทนเข้าไปได้ และเปลี่ยนเสียงได้จากไอเดีย "มันจะเยี่ยมกว่านี้ถ้ามีทีวี ?" ทันทีที่พวกเขาใส่ One-Seg เข้าไป (ทีวีขนาดเล็ก) พวกเขายังมีแบบจำลอง 3d อีกด้วยนะ


-เมื่อเร็วๆนี้ smart phones ได้ปรากฏตัวขึ้น และมันกลายเป็นอีกยุคที่คุณสามารถอ่านนิตยสารได้ และนิตยสารก็เริ่มที่จะลดลง เมื่อเทียบกับสมัยก่อน ผมจำได้ว่าเห็นศิลปินและและบทความที่มีคุณค่ามากในนิตยสาร

Die : เพราะทั้งสองอย่างให้อะไรมากมายกับศิลปิน นิตยสารเป็นเหมือนสถานที่เชื่อมต่อความคิดของพวกเขา และคำพูดต่างๆของสมาชิก นั่นเป็นเหตุผลที่เนื้อหาของนิตยสารดีขึ้น ผมไม่รู้เกี่ยวกับการที่นิตยสารโยนคำถามแบบสุ่มออกมา ผมเคยมีประสบการณ์ทั้งหนักและเบาในการให้สัมภาษณ์ บางครั้งพวกเขาอ่านมันมากไป นั่นทำให้ผมไม่เข้าใจว่าพวกเขากำลังพูดอะไรกัน (หัวเราะ)


-อาจเพราะว่าคุณอยู่ใน DIR EN GREY สำหรับ Die ซังแล้วอะไรคือ DIR EN GREY

Die : พวกเราเป็นวงดนตรีที่ไม่ได้รับการยอมรับอย่างง่ายๆจากคนทั่วไป ค่อนข้างจะเป็นสิ่งที่ตรงกันข้าม ถ้าวงของเราง่ายต่อการยอมรับของคนทั่วไปก็ไม่ใช่สิ เพราะพวกเราเป็นวงที่ต้องการให้จบแบบในแง่ลบ  นั่นทำไมพวกเราถึงต้องการให้พวกเขาปฏิเสธเรามากกว่าจะมองเราในแง่บวก นอกจากนี้ผมยังคิดอีกว่า พวกเราต้องการจะเสริมรากฐานของวงให้แข็งแกร่ง ผมคิดว่า DIR EN GREY ยังคงมีแนวทางที่ชัดเจน และจะเป็นวงดนตรีที่น่ากลัวมากกว่านี้อีกแน่นอน



Special thanks Risu
Share this article :

แสดงความคิดเห็น

Popular Posts

 
Support : Creating Website | Johny Template | Mas Template
Copyright © 2011. DIR EN GREY THAILAND FAN CLUB - All Rights Reserved
Template Modify by Creating Website
Proudly powered by Blogger