Zappy No. 47 January 2001
การตกปลาเป็นสิ่งที่ผมต้ องการจะทำเมื่อตอนที่ผมคิดว่ าผมไม่มีอะไรจะทำแล้ว เวลาที่คุณตกปลาคุณไม่ต้องคิดอะไรเลยใช่มั้ยล่ะ? ผมคิดว่ามันดีนะ ผมบอกว่าผมติดการตกปลา แต่เหมือนกับว่าผมเป็นคนใจร้อน ก็เพราะว่าผมเป็นคนใจร้อนนั่ นล่ะ ปกติแล้วผมเป็นคนที่ต้องการเก็บทุกสิ่งทุกอย่างไว้ กับตัวผมเองนะ เมื่อเร็วๆนี้ที่ผมกลับบ้านพ่ อแม่ ผมสามารถพูดในสิ่งที่ผมคิดไว้ได้หลายอย่าง ถ้าเทียบแล้วผมไม่โกรธมากเหมือนแต่ก่อน เพราะว่าแต่ก่อนผมจะโกรธกับเรื่ องที่ไม่เป็นสาระบ่อยๆ จากที่ผมได้เข้าโรงเรียนมัธยมปลาย ผมคิดว่าผมใจเย็นลง เพื่อที่จะไม่ให้สะดุดตา ผมพยายามที่จะไม่ให้โดดเด่นไป ในช่วงระหว่างมัธยมต้นนั่นน่ะ แน่ล่ ะผมสะดุดตา ผมเกลียดมันจริงๆ เพราะผมตัวเล็กกว่าผู้หญิง ผมเลยได้ไปอยู่หน้าแถว ผมเริ่มสูงขึ้นช่วงหลังปีสองจะขึ้นปีสามในมัธยมต้น ผมขาดโรงเรียนบ่อย และผมก็นอนบ่อยๆ นั่นล่ะทำไมผมถึงได้สูงขึ้น (หัวเราะ)
ไหล่คอของผมเริ่มจะแข็ง การตกปลาใช้ประสาทสัมผัส กับความเครียดของคุณ ปลา! ทำให้ผิดหวังจริงๆ!
แล้วก็ไหล่กับคอของผมแข็งและตึงมากขึ้นหลั งจากที่ผมเข้าร่วม DIR EN GREY บางทีมันอาจจะเป็นเพราะความกังวลที่มีมากจนเกินไปก็ ได้นะ (หัวเราะ)
ผมเข้าร่วมวง DIR EN GREY เมื่อตอนผมอายุ 20 ปี ผมเริ่มเล่นเบสเมื่อตอนผมอายุ18 ผมคิดว่านั่นมันยอดเยี่ ยมมากเลยนะ ผมอยากจะเข้าไปอยู่ในวงก็ เพราะวง LUNA SEA นี่ล่ะครับ
จากเวลานั้น ผมก็ไม่ แสดงความโกรธของผมออกมานะ เมื่อผมได้รับจดหมายจากแฟนๆ พวกเขาพูดว่า "คุณดูใจดี อ่อนโยน" ผมคิดว่า "อืม...นั่นล่ะการแสดงออกของผม" มันเหมือนกับอิมเมจที่ไม่จริง อิมเมจนั้นก็เป็นบางส่วนในส่ วนหนึ่งที่ผมสร้างขึ้น และยังมีตัวตนที่ผมเกลียด และต้องการจะทำลายมัน มันก็เหมือนกับคนที่เห็นแก่ตัวล่ะนะ ถึงมันจะไม่ใช่การแสดงออก แต่ผมรู้สึกอย่างนั้นล่ะ การแต่งหน้าเหมือนกับเป็นอีกหนทางที่ผมจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ มันเหมือนกับ "ฉันต้องการจะเป็นอย่างนี้ หรืออย่างนั้น" มันไม่ใช่ตัวตนของผมในปกติ แต่มันคือตัวตนที่แตกต่างออกไป เพราะว่าผมอยากให้ตัวเองสมบูรณ์แบบ มันเหมือนกับการที่ถูกปกคลุมไปด้ วยหน้ากาก หรืออิมเมจที่พยายามจะหลบซ่อน การแสดงออกภายใต้หน้ากากหรื อการแต่งหน้า การแต่งหน้าจึงเป็นอีกสิ่งที่ผมใช้ปกปิ ดข้อบกพร่องของผม เหมือนกับผมเกลียดไฝหรือผมเกลี ยดรอยแผลเป็น ก็เพียงแต่แค่แต่งแต้มมันลงไปบนหน้า มันทำให้ผมรู้สึกว่า ผมเริ่มจะสมบูรณ์แบบ หรือก็คือกลายเป็นอิมเมจของผมเอง
มันเป็นจุดที่ผมต้องการจะแยกมันกับ Toshiya DIR EN GREY หรือเป็นToshiya ธรรมดาที่แตกต่างออกไป นั่นเป็นเหตุผลที่เมื่อผมก้ าวขาลงจากเวที ผมก็จะเป็นอีกบุคคลหนึ่ง แต่ผมทำในสิ่งที่กลายเป็นว่าทำไม่ ได้ นี่มันอาจจะฟังดูเหมือนเอาแต่ ใจตัวเองนะ ผมสงสัยว่าระหว่างเวลาที่ผมคิ ดว่าผมรักผมที่เป็น Toshiya Dir en grey ผมก็คิดว่าผมก็ต้องการรัก Toshiya ที่เป็นคนธรรมดาๆด้วย เพราะว่าคนทั้งสองนั้นเป็นผม และผมต้องการที่จะเห็นตั วตนของผมเองเป็นคนที่เข้มแข็ง
ผมไม่ต้องการที่จะโยนมันออกไป และไม่อยากที่จะวิ่งหนี นอกจากนี้มันเหมือนกับการโกหกที่ผมบอกว่า ผมไม่อยากวิ่งหนี เพราะมีส่วนหนึ่งในตั วผมที่ต้องการจะวิ่งหนีไปสักที่ และส่วนหนึ่งในตั วของผมที่ต้องการจะต่อสู้ในสั กที่ ผมรู้สึกว่าเมื่อก่อนหน้าทัวร์ ผมได้ขจัดมันออกไปแล้ว เพราะผมได้ระบายอารมณ์ออกไปทั้ งหมด "มองมาที่ฉันสิ นี่เป็นฉัน นั่นก็เป็นฉัน" ความต้องการของแฟนๆ กับการทัวร์กลายเป็นจุดเปลี่ยนในความรู้สึก ตอนนี้ผมต้องการความยืดหยุ่ นในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ ความยืดหยุ่นสามารถใช้ได้กับทุกสิ่ง ไม่ใช่คิดแค่ว่า "ฉันต้องการนี่ หรือฉันต้องการนั่น" แต่ว่าสามารถที่จะคิดว่า ไม่ว่าเรื่องราวอะไรจะเกิดขึ้ นกับตัวเอง นี่คือผม เพราะว่าถ้าผมไม่สามารถยอมรับตั วเองที่เป็นอย่างนี้ได้ ผมก็คงไม่สามารถก้าวต่อไปข้ างหน้าได้หรอก
ดูเหมือนผมเป็นผู้ชายที่มืดมนนะ
^^
*-*-*
ใครบอกว่าพี่ Tot เป็นผู้ชายที่มืดมน เป็นผู้ชายที่น่ารัก และคิดมากได้ตลอดเวลาต่างหาก 55+ จะเป็นอดีตหรือปัจจุบันก็ยังเป็น Toshiya ที่น่าชื่นชมอยู่ดีเนอะ แปลผิดบ้างถูกบ้างขออภัยน้า~ อ่านสนุกๆ อย่าซีเรียส
แสดงความคิดเห็น