post:

Home » » やかん・ダイ・学 #19 (2013-05-28)

やかん・ダイ・学 #19 (2013-05-28)



แปล やかん・ダイ・学 #19  (2013-05-28)




นี่เป็นเทปที่ 19 แล้วสำหรับ Yakan Dai Gaku หลังจากนั้นยะกังก็เริ่มถาม Die ว่า ทัวร์เป็นอย่างไรบ้าง Die บอกว่า "อ่า ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นนะ..." แล้วยะกังก็อ่านข้อความที่เหล่าแฟนๆส่งมา มีคนที่ไปไลฟ์ที่ Shibuya วันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา เธอบอกว่าเธอกังวลและเป็นห่วง Kyo มากๆ เพราะเธอได้ยินว่า Kyo ป่วย ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกได้เลยว่าปัญหาของเธอมันช่างเล็กน้อยนัก เมื่อเทียบกับ Kyo จากนั้นก็พากันพูดคุยถึงเรื่องปัญหาต่อมทอนซิลของ Kyo ยะกังถาม Die ว่าเขาจะพูดคุยได้อีกหรือเปล่า Die บอกว่า มันไม่ใช่เป็นแค่ที่เสียงของ Kyo แต่มันยังรวมไปถึงว่า Kyo ไม่สามารถจะกลืนอะไรเข้าไปได้เลย เพราะว่ามันเจ็บมาก เขาสูญเสียความแข็งแรงไปและแถมเขายังไม่สบายอีก พวกเขาต้องฝึกซ้อมกันสำหรับไลฟ์ที่ Koukaidou โดยที่ไม่มี Kyo มีเพียงแค่วงเท่านั้น ยะกังถามถึงบรรยากาศว่าเป็นยังไงบ้างให้ความรู้สึกกังวลและไม่สบายใจมั้ย Die บอกว่าก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการที่พวกเขาจะเชื่อมั่น และยังคงฝึกซ้อมกันต่อไป

Die เพิ่มเติมอีกว่า ก่อนไลฟ์จะเริ่มในอีก 2 วันมันมีโอกาสเพียงแค่ 50% ที่ไลฟ์จะเกิดขึ้น และพวกเขาก็ได้ตัดสินใจกันในช่วงเที่ยงวันก่อนที่ไลฟ์จะเกิดขึ้น ดังนั้นทุกอย่างเลยตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกในเวลาที่สั้นมาก แต่ว่าพวกเขาก็ดีใจที่ทุกสิ่งทุกอย่างมันจบไปได้อย่างราบรื่น

ยะกังเองก็ได้ไปไลฟ์ในวันนั้นด้วย (ฟังดูเหมือนได้รับเชิญให้ไป) เขาบอกว่า เขาไม่อยากเชื่อด้วยซ้ำว่า Kyo จะป่วยจริง ตั้งแต่การแสดงเริ่มขึ้นมันเป็นปกติและเสียงของ Kyo ก็ออกมาได้อย่างถูกต้อง แต่ก็มีใครบางคนที่อยู่ด้านหลังบอกว่าไม่ได้ยินเสียง Die บอกว่าปัญหาหลักๆของ Kyo ไม่ใช่ที่เสียง แต่ความจริงแล้วคือเขาไม่สามารถกินหรือกลืนอะไรเข้าไปได้เลย เพราะอย่างนี้ร่างกายเขาถึงได้อ่อนแอมากๆ...เขาต้องฉีดยาด้วย



แล้วก็มีรูปไลฟ์โชว์ขึ้นมาให้ดูบางรูป เมื่อมาถึงรูปของ Die โชว์ขึ้นมายะกังเล็งประเด็นไปที่กีต้าร์ของ Die ว่ามันเป็นสีดำไม่ใช่สีแดงเหรอ ถ้าเข้าใจไม่ผิด Die บอกว่าเขามีกีต้าร์อีกตัวที่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อขาย (http://www.espguitars.co.jp/gallery/die/)
ยะกังพูดถึงเรื่องที่ Die เคลื่อนตัวไปมามากที่เดียวในระหว่างไลฟ์ มากกว่าไลฟ์ที่ยะกังเคยไปมาเสียอีก Die บอกว่าเพราะเขากระวนกระวายใจ และก็กังวลกับ Kyo ด้วย (ประมาณว่ากระตือร้น ปลดปล่อยออกมาให้มาก เพื่อความผ่อนคลาย)

หลังจากนั้นยะกังก็พูดถึงตอนที่ Die สวมฮู้ดจากเสื้อแจ๊คเก็ตของเขาในระหว่างไลฟ์ และถามว่าถ้า Die เข้าสู่โหมดการต่อสู้ Die คงเป็นเหมือนกับ Kinnikuman (ดูได้ในรูป ^^ http://www.blister.jp/images-item-350/page-22763.jpg) Die หัวเราะแล้วบอกว่าเขาเข้าโหมดต่อสู้เสมอ เมื่อเขายืนอยู่บนเวที และมันก็ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะสวมฮู้ดหรือไม่สวม ยะกังเลยเปรียบเทียบกับนักวิ่งมาราธอนที่โยนแว่นตากันแดดทิ้งไป (เสื้อผ้าและสิ่งของ) หลังจากที่วิ่งไปได้หลายกิโลเมตรแล้ว เพียงแต่ว่า Die ไม่ได้โยนสิ่งของแต่เป็นการสวมฮู้ด เมื่อเขาทำให้ร่างกายอุ่นขึ้นแล้วก็จะเข้าสู่ระดับที่สูงขึ้น Die บอกว่านั่นก็เป็นเหตุผลของเขาได้เหมือนกันในอารมณ์ถัดมา และเรื่องการเปรียบเทียบกับนักวิ่งมาราธอนมันก็ค่อนข้างถูกต้องมากเลยทีเดียว


หลังจากที่ยะกังบอกเกี่ยวกับการที่เขาได้ไปยังหลังเวทีแล้วหลังจากไลฟ์จบแล้ว Die ก็แนะนำให้ยะกังได้รู้จักกับทุกๆคน ก่อนที่ยะกังจะได้เจอกับ Die เขาก็ได้เจอกับ Shinya เข้าก่อนโดยบังเอิญ Shinya พึ่งลงมาจากหลังเวที หลังจากนั้นเขาและภรรยาของเขาก็ได้เริ่มพูดคุยกับ Shinya ยะกังได้พบกับ Shinya มาสองครั้งแล้ว และเขาก็ยิ้มในระหว่างที่พูดคุยกันกับพวกเขา Shinya ยังคงขี้อาย ประหม่าอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ Shinya พูดเท้าของ Shinya ก็จะเลื่อนเข้าไปข้างในและเขาก็จะถูจมูกของเขาไปเรื่อยๆจนมันแดง เหมือนกับเฉินหลงในเรื่องไอ้หนุ่มหมัดเมา (55+) ยะกังเลยตัดสินใจหยุดการพูดคุยกันก่อนที่จมูกของเขาจะแดงไปมากกว่านี้ เพราะยังมีคนอื่นๆที่เขาอยากจะคุยกับ Shinya อีกด้วย แต่ยังไงก็ตามแต่ Shinya ไม่สามารถย้ายไปไหนได้ เขาเลยกึ่งๆบังคับให้ Shinya พูดคุยด้วยจนกว่า Die จะมา และเมื่อเสร็จสิ้นจากนั้นเขาก็กลับบ้าน แต่ว่าเขาสนุกมากเลยทีเดียวกับไลฟ์ในวันนั้น


Die ถามยะกังเรื่องไลฟ์ที่เขาไปในครั้งแรกในฮอลมีการจัดเตรียมที่นั่งให้ด้วย ยะกังบอกว่าใช่ บรรยากาศที่นั่งภายในฮอล์มันต่างไปจากฮอล์ที่อื่นที่ให้ผู้ชมยืนดู Die บอกว่า เขาเล่นที่ Shibuya Koukaidou เป็นครั้งแรกหลังจากที่ผ่านมาแล้ว 15 ปี เนื่องจากภัยพิบัติ จนถึงตอนนั้นพวกเขาได้เล่นเพียงแค่ในไลฟ์เฮาส์ที่มีไว้ให้ผู้ชมยืนดูเท่านั้น และมันก็อยู่ใกล้กับพวกเขามาก ทันใดนั้นช่องว่างระหว่างเวที ที่นั่งและพลังงานกับผู้ชมถูกตัดขาดออกจากกัน เพราะว่าพวกเขาไม่รู้ว่าสถานที่เกิดเหตุตรงนั้นมันเป็นยังไงบ้าง แล้วยะกังก็พูดถึงแฟนๆที่ยืนอยู่ข้างนอกสถานที่แล้วค้นหาตั๋ว ยะกังบอกว่าพวกเขามีความรู้สึกที่เชื่อมต่อกับวงดนตรีที่พวกเขารักมาก และพวกเขาพยายามที่จะตามมาให้ได้ในทุกๆไลฟ์  แล้วยะกังก็พูดถึงที่ทัวร์ยุโรป (เขาเรียกว่า dangan tour ทัวร์สั้นๆในหนึ่งวัน) มีผู้ชายอยู่ข้างหลังตะโกนออกมาว่าวันนี้ขายหมดแล้ว เรื่องนี้นำไปสู่คำถามที่ว่าในยุโรปหรืออเมริกามีเรื่องอะไรแบบนี้บ้างมั้ย Die บอกว่าเรื่องแบบนี้เขายังไม่เคยเห็นทั้งสองที่เลย


ในวันนี้จะมาพูดคุยกันใน หัวข้อที่พิเศษ มีหลากหลายหัวข้อและข่าวเช่นเดียวกันบนกระดานและก็เลือกเรื่องแรกมาพูดกันคือ การใช้ศัพท์เฉพาะ "jargon / Buzzword" นอกจากนี้มันยังเป็นวิธีพูดที่พิเศษท่ามกลางคนในวงและ Die บอกว่าเขาก็ใช้ศัพท์เฉพาะ(แสลง)เยอะเหมือนกัน ยะกังเลยบอกให้ Die ยกตัวอย่าง (ไม่เข้าใจเรื่องนี้เหมือนกัน แต่คงเป็นศัพท์ที่ใช้พูดคุยกันในชีวิตประจำวัน) เช่นคำว่า patsukin no channe ในภาษาญี่ปุ่นคำนี้ควรจะเป็น kinpatsu no onee-chan (สาวผมบลอนด์) Die ต้องการเวลาในการเดาส่วนของประโยค แต่ในตอนท้าเขาก็นึกความหมายได้แล้วเพิ่มว่า ระดับที่สูงนิดหน่อย แต่มีผู้คนมากมายที่น่าทึ่งอยู่ (อันนี้งงจริงๆ ขออภัยและขอผ่านเลย 55+)


ต่อมาเข้ามาในหัวข้อข่าวเกี่ยวกับ Mari Yaguchi อดีตสมาชิกวง Mornig Musume ที่นอกใจสามีของเธอ และสามีของเธอก็จับได้คาหนังคาเขาเพราะว่าวันนั้นเขากลับบ้านเร็ว =A= (ไปดูคลิปที่มีคนทำเป็นตัวอย่างให้ดูได้ที่ http://majide2ch.blogspot.co.at/2013/05/mari-yaguchi-cheated-on-her-husband.html) (อ่านข่าวภาษาไทยได้ที่นี่ click )ตอนนี้ยะกังสงสัยว่าเค้าจะมี sex กันท่าไหนยังไง มันเป็นเตำแหน่งที่น่าตกใจมากเลยทีเดียว และคำตอบที่แฟนๆส่งเข้ามามากที่สุดก็เป็นท่า 69 (คงเข้าใจกันนะ ^^)
Die ยิ้มแล้วก็พูดแค่ว่า "ผมก็สงสัยเหมือนกัน" แล้วยะกังก็เล่าเรื่องที่เกิดกับเพื่อนของเขาให้ฟัง ว่ามีเรื่องเกิดขึ้นประมาณนี้ เขาจับแฟนสาวที่กำลังเข้าด้ายเขาเข็มกับคนอื่นและหลังจากนั้นพวกเขาก็เลิกกัน และในตอนท้ายของหัวข้อนี้ยะกังบอกว่ายังมีเรื่องที่จะบอกอีก แต่เขาพูดที่นี่ไม่ได้ "ผมจะบอกคุณในตอนหลังนะ" และ Die พูดว่า "ขอบคุณ"


หัวข้อต่อมาคือ "ผู้ชายคนนี้เจ๋ง" ยะกังก็บอกว่า Die เองก็เหมาะกับคำนี้แน่นอน แต่ Die บอกว่าไม่เป็นความจริงหรอก ยะกังเลยถามว่าแล้วใครกันที่ Die คิดว่าเจ๋ง (แฟนๆส่งข้อความเข้ามาว่า Cipher ^^ ไอดอลพี่ Die) Die บอกว่าเขาชอบละครโทรทัศน์เรื่อง “Daimongundai” หรือ “Seibu Keisatsu” เมื่อตอนเขายังเป็นเด็กอยู่ (ดูได้จาก link จ้า http://www.youtube.com/watch?v=8IUTcLZhwBc) Die ชอบวาตาริซัง และเท็ตซึซัง Die คงจะชอบโครงสร้างของสังคมในซีรี่ย์เรื่องนี้ และความสัมพันธ์ของตัวละครอื่นๆภายในเรื่อง (ศักดิ์ศรี ,ความเชื่อใจ, ลูกผู้ชาย, คุณธรรม เป็นต้น) ยะกังเลยพูดประมาณว่า "ถ้าผมต้องอยู่ในโลกแบบนี้ ผมไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว" เพราะว่าในเรื่องมีการปกครองตามลำดับชั้นที่แข็งแกร่ง ฯลฯ


หัวข้อต่อมา "ผลไม้ที่ชอบ" Die บอกว่าเขาไม่ทานผลไม้ เพราะการปอกเปลือกมันน่ารำคาญ นอกจากนี้เขาก็ไม่กินผลไม้ที่อยู่ในโรงแรมด้วยตั้งแต่ที่เขาดื่มแอลกอฮอล์ เขาคิดว่าความหวานจากผลไม้มันไม่เหมาะกับเครื่องดื่มรสเปรี้ยวที่เขาชอบ (แต่ก่อนพี่ Die เคยบอกว่าตอนเด็กชอบกินสตอเบอรรี่กับนมข้นหวาน ;_; พอโตมาเป็นนักดื่มก็ไม่สนเลยสินะ) แล้วยะกังพูดเกี่ยวกับสถานที่ Inokashira-line ในโตเกียว ที่ๆเขาสามารถเด็ดลูก Biwa ได้เท่าที่เขาต้องการ (ผลไม้นี้ภาษาไทยเรียกว่า ผลโลควัท หรือโลควอท หรือปี่แป๊ สรรพคุณมากมายแก้ไอ ลดไข้ เป็นต้น) เขาบอกว่าที่นั่นไม่มีใครอยู่เลย มันเลยไม่เป็นไรที่จะเด็ดมา


หัวข้อต่อมาเกี่ยว การเดินทางกับโรงเรียนตอนมัธยมต้น ยะกังเล่าเรื่องของตัวเองก่อนเมื่อตอนอยู่มัธยมต้น Okinawa เขาไปโรงเรียนมัธยมปลายที่ Hokkaido ใน Hokkaido เขาได้ไปที่ฟาร์มหมี เพื่อจะได้เห็นบางส่วนของพวกสัตว์เหล่านั้น แต่เมื่อพวกเขาไปถึงมันเป็นช่วงที่ตรงกับฤดูผสมพันธุ์ของหมีเข้าพอดี และพวกเขาก็ยืนมองหมีผสมพันธุ์กัน และครูของเขาก็พูดว่า "ดูสิ นั่นล่ะหมีจริงๆ...เอาล่ะไปต่อกันเถอะ" และพวกเขาก็พากันออกไปอย่างรวดเร็ว (ฮาๆๆ) Die พูดว่า "เป็นช่วงเวลาที่ดีอะไรอย่างนี้" แล้วก็เพิ่มเติมอีกว่า "มันเป็นโอกาสหายากนะที่จะได้เห็นแบบนั้น" ยะกังเลยบอกว่า "นั่นล่ะทำไมครูถึงได้โชว์ให้ผมเห็น"

แล้ว Die ก็พูดเกี่ยวกับทริปสกีที่ไปกับโรงเรียนตอนมัธยมต้น ที่ Nagano  ตอนนั้นเป็นช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์พอดี แน่นอนล่ะว่ายะกังอยากจะรู่ว่ามีสาวคนไหนมาสารภาพรักกับ Die มั้ย แต่ Die ก็ปฏิเสธ ยะกังเลยบอกว่า "โกหก ใครจะไปเชื่อ!" หลังจากนั้น Die ก็บอกว่าการเล่นสกีของเขาแย่มากๆ และเมื่อสกีไปถึงเนินหิมะเขาก็ล้มลง มันเป็นเรื่องที่น่าอายมากๆ ยะกังเลยแซว Die ว่า Die คงดูเหมือนมนุษย์หิมะเมื่อไปถึงตรงที่ลาดชัน


หลังจากพักโฆษณา ตอนนี้เป็นเวลาที่ท่านผู้ชมสามารถโหวตคำถามเข้ามาเพื่อให้ Die ตอบ (มีคำถามขึ้นมาหน้าจอ 4 ข้อ แล้วให้เลือกจากนั้นจะเลือกคำตอบที่ถูกโหวตมามากที่สุด)
[คือเราอยากจะกดทุกข้อมากเลยนะ คำถามชวนคิดดี 55+]
1. เมื่อคุณพบกับผู้หญิงสิ่งแรกที่คุณมองคืออะไร (40.1%)
2. อะไรที่คุณหมกมุ่นอยู่กับมันเหมือนเด็ก (17.3%)
3. หนังเรื่องไหนที่คุณตั้งตารอแต่ก็ต้องผิดหวังกับมัน (11.8%)
4. เว็บไซต์ไหนที่คุณเข้าไปดูบ่อยๆ (26.8%)


คำตอบแรก Die บอกว่าจะมองไปที่ใบหน้าของเธอก่อน และดวงตา จากนั้นสายตาของเขาก็จะเลื่อนต่ำลง ยะกังอยากจะรู้ว่า ส่วนไหนของผู้หญิงที่เขาคิดว่าเซ็กส์ซี่ ยกตัวอย่างว่าผู้หญิงหลายคนคิดว่ามือ คอ ของผู้ชายเซ็กส์ซี่ เป็นต้น Die ทำหน้าคิดแต่ว่าเขาก็ไม่ได้ตอบอะไรออกมาจริงๆ (ไม่ตอบก็พอรู้ล่ะ55+) ยะกังถาม Die ต่อว่าส่วนเอวของผู้หญิงหรือเปล่า Die บอกว่าเขาไม่ได้ดูไปมากขนาดนั้น แต่ว่าขาสามารถมองเห็นได้ เขาจะมองไปที่นั่น แล้ว Die ก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรกับตัวอย่างอื่นๆของยะกัง แต่ว่าก็พูดเกี่ยวกับข่าวที่พวกเขาเคยอ่านกันมาที่มีนักศึกษาตัดเสื้อให้เหลือครึ่งหนึ่งแล้วเขียนชื่อทีมต่างๆที่พวกเธอเชียร์อยู่ แล้วยะกังก็พูดถึงเรื่องที่ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงเมื่อเขาไปไลฟ์ที่ Shibuya เพราะว่ามีแฟนๆใส่เสื้อผ้าแบบนั้นไปด้วย Die เลยบอกว่า "ผมไม่เคยเห็นผู้หญิงในไลฟ์แต่งตัวแบบนั้นเลยนะ" แล้ว Die ก็เพิ่มเติมว่า เขาไม่ชอบสไตล์แบบนั้นเลยจริงๆ แล้ว Die ก็ถามกลับยะกังว่าส่วนไหนของผู้หญิงที่เขาชอบ ยะกังบอกว่าเมื่อตอนเขายังเป็นหนุ่ม เขาชอบผู้หญิงที่เอวเล็ก และผมสั้นเหมือนเด็กผู้ชาย Die เลยบอกว่าเขาก็ชอบผู้หญิงผมสั้นเหมือนกันเมื่อตอนเขาเป็นวัยรุ่น แต่ไม่ชอบให้สั้นเกินไป ยาวประมาณตรงคางก็พอ


แล้วพวกเขาก็กลับมากันที่กระดานข่าว และเลือกหัวข้อมาคือ คุณจ่ายค่างราเม็งไปแล้วเท่าไร? ยะกังเลยถาม Die ก่อน Die บอกว่านานๆเขาถึงกินครั้ง ไม่ได้กินบ่อยๆ แต่เมื่อเขาเมาเขาจะกินราเม็งเผ็ดบ่อยๆ อย่าง Jigoku Ramen น้ำซุปสีแดง หลังจากนั้นพวกเขาก็พูดกันถึงร้านราเม็งใน Gotanda ที่มีวิธีการทำเส้นที่พิเศษ และสามารถดูพวกเขาทำได้ในระหว่างที่กิน แล้วยะกังก็เล่าเรื่องที่เขาไปงานออกร้านของราเม็ง มีผู้จำหน่ายมาบอกเขาว่านั่นราคาเพียง 500 เยน ก็พอเพียงแล้วที่คุณจะทำน้ำซุปให้ได้รสชาติ 80% ถ้าราคาแพงขึ้นก็จะได้รสชาติที่ดีเพิ่มขึ้น พวกเขาก็เห็นด้วยราคาของราเม็งจะราวๆ 650-700 เยน แต่เมื่อเร็วๆนี้ก็มีหลายที่ ที่ขายในราคา 800-900 เยนซึ่งพวกเขาก็คิดว่ามันมากไป หลังจากนั้นยะกังก็พูดถึงสิ่งที่เขาเกลียดเมื่อเข้าไปในร้านราเม็งเมื่อตอนที่เขาเป็นนักศึกษาปีหนึ่งเขามักจะถูกแกล้งโดยรุ่นพี่ และคนที่เข้มงวดกับเขา บรรยากาศภายในร้านมันแย่มากๆและยะกังไม่อยากจะกลับไปที่นั่นอีก เปรียบเทียบเหมือนกับหญิงแก่ที่ทำงานในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่มักจะตำหนิหญิงสาวที่อ่อนกว่าเสมอๆ มันไม่ดีเลย ซึ่ง Die ก็เห็นด้วย เขาไม่อยากที่จะมีประสบการณ์แบบนั้น


ต่อมา Die เล่าว่าเมื่อหลายปีก่อน ipot touch ของเขาหายไปในระหว่างทัวร์ยุโรปในโรงแรมที่ London (Die ไม่แน่ใจว่าในลอนดอนหรือเปล่า หรือว่าสักที่ในอังกฤษ) มันเป็นเรื่องที่แย่มาก ในนั้นมันยังมีเพลงของ Dir en grey ที่ยังทำไม่เสร็จด้วย เขาใส่มันไว้ใน ipod เพื่อที่จะฟังมันในระหว่างที่พวกเขาเดินทางทัวร์ Die พูดว่า "ผมคิดว่า อะไรมันจะเกิดขึ้น ถ้ามีใครสักคนปล่อยเพลงนี้ออกมาก่อนพวกเรา?" จะทำยังไงดีหลังจากนั้น Die พูดกับสมาชิกคนอื่นๆว่า "ขอโทษ มันช่วยไม่ได้จริงๆ" Die คิดว่าอาจจะเป็นพนักงานทำความสะอาดในโรงแรมหรือพนักงานในโรงแรม พวกเขามีกุญแจที่จะเข้าไปในห้อง แต่ Die ก็ไม่ได้พูดเจาะจงว่าใครขโมยไป Die บอกว่าเขาแน่ใจว่าเขาไม่ได้ทำมันหาย เขาเป็นคนที่จะเช็คทุกอย่างด้วยความระมัดระวังเสมอเวลาที่เขาจะไปไหนมาไหน ยกตัวอย่างว่า ถ้าเขาออกจากแท็กซี่ เขาก็จะดูรอบๆตัวก่อนว่าเขาไม่ได้ลืมอะไร เช่นเดียวกันกับที่โรงแรมที่เขาเช็คทุกอย่างในระหว่างที่ทัวร์ เขาเปิดลิ้นชัก ยกกระดาษยกอะไรอื่นๆขึ้นเพื่อเช็คดู เขาหันไปรอบๆประตูแล้วก็กลับเข้ามาเพื่อเช็คอีกครั้ง นั่นเพราะอะไรเขาถึงได้ช็อกมากที่ของเขาถึงหายได้

ยะกังพูดว่า Die เป็นคนที่เรียบร้อยและมีความเป็นระบบระเบียบมาก Die บอกว่าใช่ เขาทำรายการต่างๆในแต่ละวันของเขาลงมือถือ และเขาจะเช็คมันทุกๆวัน สิ่งไหนที่เขาทำเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็จะลบมันทิ้ง แม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆเช่นการตอบกลับคำเชิญเขาก็ทำด้วย Die ยังบอกอีกว่า CD ต่างๆของเขาก็มีการจัดเรียงชื่อตามตัวอักษรด้วยถ้า CD เพลงญี่ปุ่นก็จัดตามแบบระบบตัวอักษรญี่ปุ่น CD ต่างประเทศก็จัดตามตัวอักษร A-B-C ไป ยะกังพูดว่า "คุณเป็นคนที่มีระเบียบมากจริงๆ!" และยะกังก็อยากจะรู้ว่าตู้เสื้อผ้าของ Die เรียบร้อยด้วยมั้ย Die บอกว่าเสื้อผ้าเขาก็เรียงกันเป็นสีเลย (ป๊าดด!) สีขาวอยู่กองหนึ่ง สีขาวที่มีลวดลายอยู่อีกกองหนึ่ง ยะกังคิดว่า Die กรุ๊ปเลือดน่าจะเป็น A เพราะว่าเขาเป็นคนที่เรียบร้อยมากๆ แต่จริงๆแล้ว Die กรุ๊ป B


ในระหว่างที่พักก็มีให้ท่านผู้ชมสามารถโหวตเข้ามาได้อีกครั้ง ในตอนนี้ไม่ตอบคำถามที่ได้คะแนนโหวตมากที่สุด แต่เลือกตอบในข้อที่ได้คะแนนรองเป็นอันดับ 2
1. อะไรคือวิธีการที่คุณทำเพื่อลดความตึงเครียด หรือความกังวล (6.6%)
2. คุณกลัวอะไรแบบที่เด็กกลัว (20.1%)
3. ถ้าคุณไม่ได้ทำงานที่ทำอยู่ตอนนี้ คุณจะทำงานอะไรแทน (34.5%)
4. คุณทำอะไรเมื่อคุณอยู่คนเดียว (38.8%)

ยะกัง "คุณจะทำอะไรถ้าคุณไม่ได้เล่นกีต้าร์?" Die บอกว่าเขาอาจจะเป็นมือกลอง ยะกังอยากรู้ว่าจะเป็นมือกลองวงร็อค หรือว่าแจ๊ส Die บอกว่าร็อค Die บอกว่าจุดเริ่มต้นของเขาเลยคือการเล่นกลอง แล้วก็ยังมีกลองชุดในห้องของเขาด้วย ยะกังถามว่า "เสียงมันไม่ดังมากเลยเหรอ?" Die "อ่า ผมอาศัยอยู่ในที่ห่างไกล (ชนบท)" เขาเป็นเจ้าของกลองชุดธรรมดา ดูเหมือนว่าที่ Die ไม่เล่นกลองต่อไปก็เพราะว่าไม่มีทำนองของเพลง หลังจากนั้นเขาก็เริ่มเล่นกีต้าร์แทน

ยะกังถาม Die ว่าแล้วมีงานอื่นๆที่อยากจะทำนอกเหนือจากดนตรีมั้ย เช่นตัวอย่างในตอนเด็กว่าเขาอยากจะเป็นอะไร Die บอกว่าเมื่อตอนเป็นนักเรียนเขาเคยเขียนในรายงานเกี่ยวกับงานในฝันว่าเขาอยากจะเป็นตำรวจ ยะกังเลยบอกว่า "โอ้!! เพราะเรื่อง Seibu Keisatsu ใช่มั้ย!" Die บอกอีกว่า หรือไม่เขาก็อยากจะเป็นนักกีฬาเบสบอล Die บอกว่าเขาเคยทำงาน part time ต่างๆ หนึ่งในนั้นก็คือการทำเกี๊ยวซ่าด้วย จากช่วงเที่ยงไปจนถึงช่วงเย็น การทำเกี๊ยวซ่าเป็นอะไรที่ยากมาก ยะกังพูดว่า "ถ้าใครไม่มีความชำนาญ เกี๊ยวซ่ามันก็อาจจะแยกออกจากกันได้" Die บอกว่าใช่ นอกจากนี้เขาก็เคยทำงานที่ร้านราเม็งด้วย หน้าที่ของเขาคือการทำเส้น เมื่อตอนเอาไปเสิร์ฟก็มีคนเอากลับมาคืนแล้วบอกว่ามันยังไม่สุก (พี่ Die เคยพูดเกี่ยวกับงานพิเศษในบทสัมภาษณ์นี้ ใครยังไม่เคยอ่าน ลองไปอ่านกันนะ Arena37 No. 213)


กลับไปที่กระดานข่าว หัวข้อที่เลือกมาคือ ถ้าคุณเป็นนักกีฬามืออาชีพ กีฬาที่คุณจะเล่นคืออะไร Die ตอบว่านักกีฬาเบสบอล เขาอยากจะทำโฮมรันใน Tokyo Dome หัวข้อต่อมาคือ อะไรคือสิ่งที่คุณตั้งตาคอยในฤดูร้อนนี้ ยะกังบอกว่าเขารอคอยที่จะไปยังมหาสมุทรและสระว่ายน้ำเท่านั้น Die บอกว่าในช่วงฤดูร้อนเขาจะเช่าเรือ (Die พูดเหมือนเรือนำเที่ยว หรือเรือธรรมดาแต่อาจจะใหญ่ขึ้นมาหน่อย) เขาจะไปกับเพื่อนๆที่โอกินาว่าอยู่บนเรือและก็ดื่มกัน ดังนั้นเขาตั้งตาคอยฤดูร้อนมาก ยะกังถาม Die ว่าอยากจะกินอะไรอยู่ริมหาดระหว่างราเม็ง แกงเผ็ดหรือว่ายากิโซบะ แน่นอนว่า Die เลือกแกงเผ็ด หลังจากนั้นพวกเขาก็พูดกันเกี่ยวกับเทศกาล Matsuri ว่าอาหารแพงมากเท่าไร


การพูดคุยพิเศษในวันนี้ก็จบลง และ Die ก็โชว์ตารางการทัวร์ที่ยุโรปให้ดูด้วย ยะกังบอกว่าเคยไปอังกฤษกับฝรั่งเศษแต่ไม่เคยไปเยอรมันเลย เขาบอกว่าตอนอยู่ปารีสเป็นวันชาติพอดี ทุกอย่างปิดหมด เขาตกใจมากจริงๆ หลังจากนั้นยะกังก็พูดกับ Die ว่าให้บอก Staff ถ่ายรูปไว้ด้วยถ้ามีแฟนๆมาพูดว่า "กรุณาขายตั๋วของคุณให้ฉันเถอะ" ถ้ามีนะ

ตารางทัวร์ในยุโรป


_______

จบแล้วพิมพ์มาราธอนมาก ผิดพลาดตรงไหนขออภัย มันยาวอะ 55+ ยังตามอ่านกันอยู่ป่าว ^^ ยังมีอะไรที่อยากแปลมาลงอีกเยอะ ถ้าช้าหน่อยคงไม่ว่านะ ตอนนี้เราทำงานหนักด้วย ;_; (ใช้แรงงานแลกเงิน 55) เลยไม่ค่อยมีเวลาเท่าไร เราฝากทีมงานคุณภาพไว้แล้ว55+ ยังไงก็ติดตามในแฟนเพจ และกรุ๊ปเดอได้นะ ^^  ยังไงก็ติดตามกันเรื่อยๆน้า *โค้ง*


Share this article :

แสดงความคิดเห็น

Popular Posts

 
Support : Creating Website | Johny Template | Mas Template
Copyright © 2011. DIR EN GREY THAILAND FAN CLUB - All Rights Reserved
Template Modify by Creating Website
Proudly powered by Blogger