post:

Home » , » แปล Die’s interview in Ongaku to hito May 2013

แปล Die’s interview in Ongaku to hito May 2013



音楽と人 2013年 05月






- ก่อนอื่นเลยผมอยากจะถามคุณว่าในระหว่างที่หยุดพัก คุณจำได้มั้ยว่าคุณทำอะไรบ้างใน 1 ปีที่ผ่านมา
Die : ใน 1 ปีที่ผ่านมา ผมคิดว่าผมก็อยู่ในสตูดิโอตลอดนะ


- คุณรู้สึกยังไงบ้างในช่วงเวลานั้น ถึงแม้ว่าคุณจะทำงานต่างๆในสตูดิโอไป แต่กิจกรรมของวงก็ต้องหยุดลงและคุณก็ยังไม่รู้อีกว่าในอนาคตมันจะเป็นยังไง
Die : ตอนนี้ผมก็สบายดีนะ พวกเราสามารถทำกิจกรรมต่างๆได้ แต่ในเวลานั้นผมคิดว่าในเร็วๆนี้ หรือต่อจากนี้ไป สิ่งเหล่านี้มันอาจจะเกิดขึ้นได้อีกครั้งกับ Kyo และอาจจะด้วยเวลาเมื่อพวกเราต้องหยุดอีกครั้ง สมาชิกคนอื่นๆ ก็มีอายุมากขึ้น ร่างกายก็เปลี่ยนแปลง ฯลฯ  มันอาจจะไม่ดีเท่าไรนะ ผมคิดในเรื่องนี้มากเป็นพิเศษเลยล่ะ


- คุณหมายความว่าจนถึงเดียวนี้ วงก็ยังดำเนินต่อไปด้วยความรู้สึกเช่นนี้เหรอ
Die : ตั้งแต่ที่ตารางงานของวงเต็ม พวกเราก็จะทำงานกับตารางงานนั้นที่ต้องยืดออกไปนานกว่า 1 ปี แต่เมื่อทุกอย่างมันหยุดกระทันหัน มันเหมือนกับว่าความรู้สึกเหล่านั้นก็เข้ามาถึงพวกเรา


- เมื่อตารางงานของคุณถูกล้างออกไป มันเหมือนกับว่าจะทำให้คุณรู้สึกลำบากใจ?
Die : ครับ เมื่อพวกเรารู้สึกลำบากใจมันเหมือนกับว่าทำอะไรไม่ได้เลย ยังไงก็ตามแต่พวกเราก็รอการกลับมาของ Kyo พวกเราไม่ต้องการสร้างบรรยากาศที่เกี่ยวกับความวิตกกังวลกับ Kyo พวกเราต้องการสร้างบรรยากาศให้เหมือนว่า "พวกเรายังเป็นปกติเสมอ! ดังนั้นเมื่อคุณดีขึ้นแล้ว ไม่ว่าเมื่อไรก็ตามพวกเราก็จะเริ่มดำเนินงานต่อไป" ดังนั้นพวกเราจะไม่ตัดกำลังใจสูงสุดของพวกเราออกจากหัวใจ


- ช่วงที่วงหยุดพักนี้ เป็นโอกาสที่ดีที่คุณจะได้ทำอะไรอย่างอื่นที่นอกจากนี้ใช่มั้ย?
Die : มีครั้งหนึ่งที่ผมแยกตัวออกจากวง และดนตรี ฯลฯ และทำในสิ่งปกติที่ผมไม่สามารถทำได้ และพยายามทำในสิ่งที่ผมชอบ นอกจากนี้ผมก็ยังไปดูไลฟ์ของวงต่างๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมคิดว่าบนเวทีมันเป็นสถานที่ที่พิเศษมาก จนถึงเดี๋ยวนี้ การเล่นกีต้าร์ในทุกๆวันมันเป็นสิ่งที่ผมทำอย่างแน่นอนชัดเจน แม้แต่ตอนที่พวกเราไปต่างประเทศระยะห่างระหว่างตัวผมและกีต้าร์อยู่ใกล้กันมากๆ สิ่งที่ผมเริ่มสังเกตเห็นจากสิ่งนั้นคือ ชีวิตกลายเป็นเหมือนกับบางสิ่งที่เราได้อยู่ใกล้ในทุกๆวัน ในความเป็นจริงแล้วสิ่งเหล่านั้นมันจะมีความพิเศษเพิ่มมากขึ้น


- ผมคิดว่าความรู้สึกของการมีชีวิตอยู่ในขณะนี้ ทุกๆวันมันเป็นที่สิ่งที่แปลกนะ (หัวเราะ)
Die : ก็ใช่ครับ (หัวเราะ)


- ยังไงก็ตามการไปทัวร์ต่างประเทศก็เป็นสิ่งที่เข้มงวดใช่มั้ย
Die : บางสถานการณ์มันก็แย่เหมือนกัน


- มันทำให้ผมคิดว่า คุณทำหน้าที่ดีแล้ว เช่นเดียวกันว่าผมรู้สึกชื่นชมคุณในสิ่งที่คุณทำมาอย่างต่อเนื่องจนถึงตอนนี้โดยไม่มีการหยุด
Die : ผมยังมีความรู้สึกในทางเดียวกันว่า การที่วงต้องหยุดลงเมื่อปีที่แล้วมันเป็นเรื่องใหญ่ แต่ก็ต้องขอบคุณที่ทำให้ผมสามารถมองมาที่ตัวเอง และวง ท่ามกลางสิ่งเหล่านั้น เพลง Rinkaku ก็ยังคงทำอยู่ มันเป็นเพลงที่น่าประหลาดใจมากจริงๆ มันเกิดขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์แม้ว่าจะไม่มีกำหนดตารางงานอะไรเลย


- คุณคิดว่าเพลงนั้นมันเกิดขึ้นเพราะจังหวะเวลานั้นเหรอ?
Die : ใช่ครับ ชนิดของเพลงก็เป็นเพลงที่ปกติ ไม่มีใครพยายามที่จะแนะนำอะไร เป็นคอร์ดเมเจอร์มาตรฐาน เป็นเพลงที่ทำขึ้นเพิ่มเติมช่องว่างในอัลบั้มให้เต็ม แต่ในเวลานั้น มันเป็นเพลงที่ Kyo ได้กลับมาร้องเพลงอีกครั้ง  มันเลยกลายเป็นเหมือนการทดลองวิธีต่างๆ และขจัดข้อผิดพลาดออกไป


- เมื่อผมได้ยินอย่างนี้แล้ว ผมคิดว่า Dir en grey เป็นวงที่ตรงไปตรงมาจริงๆ
Die : ใช่แล้วครับ (หัวเราะ)


- มันเป็นเพลงที่ไร้ที่ติ เหมาะกับนักร้องที่พึ่งรักษาตัวและกลับมาร้องเพลงอีกครั้ง มันทำให้แฟนๆมีความสุขมาก ผมคิดว่าแฟนๆคงปลื้มใจที่จะได้ยินเสียง Kyo ร้องเพลงอีกครั้ง พวกคุณเป็นวงแบบไหนกันแน่นะ (หัวเราะ)
Die : ผมไม่รู้ว่าพวกเราเป็นแบบไหน (หัวเราะ) เพลงนี้คงจะไม่ได้เกิดถ้าไม่มีเหตุการณ์หยุดพัก


- ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปีที่แล้ว ผมมีความรู้สึกว่ามีบางอย่างที่เปลี่ยนไป หลังจากที่พวกคุณหยุดพัก
Die : มีบางสิ่งแตกต่างไป?


- ใช่ ผมรู้สึกได้จากการดูไลฟ์ที่ Tokyo international forum hall คุณคิดว่ามีบางส่วนในวงเปลี่ยนไปบ้างไหม?
Die : ผมสงสัยว่าอะไรมันเปลี่ยนไป ยังไงก็ตามสมมติว่าพวกเราเปลี่ยน พวกเราจะมองดูเหมือนไม่เปลี่ยน หรือพวกเราอาจจะยังไม่ได้เปลี่ยน แม้ว่าพวกเราจะหยุดพัก เมื่อทัวร์เริ่มขึ้น ผมรู้สึกว่าพวกเราเริ่มจะกลับมาเป็นตัวตนเก่าของพวกเรา ดังนั้นผมรู้สึกว่าจริงๆแล้วพวกเราไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย


- คุณไม่หวังให้บางอย่างมันเปลี่ยนแปลงบ้างเหรอ? บางอย่างที่เกี่ยวกับสมาชิกในวง
Die :  เกี่ยวกับสมาชิกในวง ? อืม...ผมคิดว่า ผมไม่ต้องการอะไรในพื้นที่นั้นนะ แม้ว่าจะถูกบังคับให้ต้องโต้ตอบ และถูกพูดเหมือนกับว่า "จากนี้ไปช่วยทำอย่างนี้ด้วยนะ" หัวใจของพวกเราคงจะเคลื่อนที่ไปอย่างตรงไปตรงมาไม่ได้


- ทำไมเป็นงั้นล่ะ?
Die : ยกตัวอย่าง ถ้าผมคิดว่า "ถ้ามีสิ่งที่เป็นเช่นนั้น ผมก็อยากที่จะก้าวต่อไป" ถ้าทุกคนคิดในสิ่งเดียวกัน หลังจากนั้นวงก็จะก้าวไปข้างหน้าอย่างเป็นธรรมชาติในทิศทางเดียวกัน และทำในสิ่งที่จะทำให้วงพวกเราแข็งแกร่ง


- คุณหมายความว่ามันดีกว่าที่จะไม่มีการพูดคุยกัน?
Die : ใช่ครับ ครั้งแรกที่พวกเราไปทัวร์กันที่ยุโรป บรรยากาศภายในวงมันไม่ค่อยดีเท่าไร เมื่อพวกเราปรากฏตัวในเทศกาลที่ยุโรป พวกเราไม่มีปฏิกิริยาต่ออะไรเลย จนถึงตอนนี้ผมมาคิดว่า "พวกเราทำมันค่อนข้างดีใช่มั้ย?" แต่เมื่อถึงเวลาต้องไปยืนบนเวที พวกเราไม่ได้สร้างความประทับใจอะไรเลย "อ่าา เหมือนกับว่าเราพ่ายแพ้ให้กับโลกใบนี้" "พวกเราต้องรวมกันให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวมากกว่านี้ ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันยังไม่ดีเท่าไร" ผมคิดว่าทุกๆคนก็คงคิดเหมือนกันในตอนที่พวกเราอยู่บนเวที แต่พวกเราก็ไม่พูดถึงกันในเรื่องนี้เลย แต่ว่าวงของเราก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ตอนนั้น


- อีกอย่างก็คือ ไม่มีการพูดถึงในสิ่งที่สำคัญ เพราะทุกคนคิดในสิ่งเดียวกัน
Die : ใช่แล้วครับ


- แต่คุณไม่คิดเหรอว่ามันคงจะเร็วกว่าถ้ามีการพูดคุยกันบ้าง?
Die : จริงๆมันก็ใช่ครับ แต่ก็อย่างว่าล่ะ มันคือการทัวร์ต่างประเทศ ฯลฯ มันเป็นช่วงเวลาที่เหน็ดเหนื่อยอย่างเหลือเชื่อเลยล่ะ จริงๆแล้วมันก็เป็นสิ่งที่ไม่น่าพอใจเท่าไร แต่ถ้าผมบ่นออกไปว่า "ฉันเหนื่อย" หรือ "ฉันพอแล้ว" บรรยากาศมันก็เหมือนกับว่า "คุณแพ้!" ดังนั้นผมเลยไม่พูดมันออกไป แม้ว่าใครบางคนจะพูดเเกี่ยวกับเรื่องนั้น แต่สมาชิกในวงก็เหมือนกับ "ทุกคนมีความรู้สึกว่ามันน่าเหนื่อยหน่ายมาก" ดังนั้นเลยไม่มีใครพูดอะไรออกไป


- มันคือการต่อสู้กับความบากบั่น?
Die : ครับ พวกเราไม่มีทางเลือก แต่พวกเราก็ปกปิดมันไว้ในหัวใจของพวกเรา


- กับสิ่งนั้น ในปัจจุบันนี้กับสมาชิกคนอื่นๆมันกลายเป็นความจำเป็นที่น่าเบื่อใช่มั้ย?
Die : ใช่ พวกเราไม่มีทางเลือกแต่ก็ได้ตัดสินใจไปแล้วด้วยตัวของพวกเราเอง พวกเราไม่มีทางเลือกแต่ก็จะปล่อยให้มันอยู่ภายในพวกเรา ในกรณีของผมคือจะออกไปดื่มและสนุกสนานกับสิ่งเหล่านั้น


 -ดังนั้นการบังคับตัวเองให้บากบั่นมันก็เหมือนกับสิ่งที่เชื่อมโยงกับวงให้พัฒนาด้วย
Die: ครับ ผมก็คิดกับตัวเองอย่างนั้น


-  ได้ยินอย่างนี้แล้วผมว่ามันเป็นเรื่องที่น่ากลัวเลยล่ะ
Die : ฮาๆๆๆ ใช่มั้ยล่ะ


- ผมคิดว่าวงของพวกคุณมีความสัมพันธ์กันแบบค่อนข้างเสี่ยงนะ
 Die : ใช่ครับ แต่พวกเราทั้งหมด Dir en grey ก็น่าจะเป็นวงที่แข็งแกร่ง ในความคิดวง Dir en grey จะเป็นวงแบบนั้น ยกตัวอย่างว่า ถ้าพวกเราได้รับความรำคาญจากสมาชิกในวงคนอื่นๆ พวกเราจะคิดเหมือนกับว่า "ไม่ๆ วงเราจะไม่เคลื่อนที่ไปแบบนี้ พวกเราจะพยายามไม่คิดอย่างนั้น" ดังนั้นการพูดในสิ่งแย่ๆ พวกเราจะพยายามไม่พูดและไม่มองกลับไปในอดีตของสมาชิกแต่ละคน หรือขัดแย้งกันเอง ผมไม่รู้ว่าวงพวกเราเป็นอย่างนั้นหรือไม่ แต่ผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่พวกเราทำกันครับ


- ผมได้ยินมากขึ้นเกี่ยวกับความเหนื่อยหน่ายของพวกคุณ มันเหมือนกับความสัมพันธ์ของพวกคุณด้วยใช่มั้ย ผมคิดว่าคุณทำมันได้ดีมากจริงๆล่ะที่ดำเนินมาได้เป็นเวลานานขนาดนี้
Die : ครับ ใช่มั้ยล่ะ



- แต่ถ้าให้พูดกันตรงๆ คุณก็อยากที่จะให้วงมีหนทางที่จะผ่อนคลายได้มากกว่านี้
Die : ครับ โดยส่วนตัวผมแล้ว ผมอยากจะทำในสิ่งที่ค่อยๆก้าวไปช้าๆ เช่นเดียวกันคือผมก็อยากจะสับเปลี่ยนทำในสิ่งที่ผมทำมันได้อย่างถูกต้องไปทีละอย่าง ถ้าผมไม่ได้มีชีวิตอย่างนั้น ในทุกๆวันมันก็คงจะเป็นอะไรที่ปกติซ้ำแล้วซ้ำเล่า และผมอาจจะสูญเสียแรงจูงใจของผมเองด้วยครับ


- แต่ว่า Dir en grey ไม่ได้เป็นวงที่มีการสับเปลี่ยนอย่างนั้นใช่มั้ย (หัวเราะ)
Die : ฮาๆๆๆ ครับ ผมก็แค่พูดให้มันดีแค่นั้นล่ะ


- แต่คุณก็มีความคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้น และไม่รู้ว่าวงจะหยุดอีกเมื่อไร
Die : ใช่ครับ


- แม้ว่าคุณจะทำสิ่งเหล่านั้นเพื่อหลีกเลี่ยงความจริง?
Die : อ่า แต่ผมคิดว่า "ฉันไม่รู้ว่ามันจะจบเมื่อไร" มันไม่ใช่ว่า "ฉันหวังจะให้มันดำเนินต่อไป" ในท้ายที่สุดก็แค่ดำเนินต่อไป และผมว่ามันจะดำเนินอย่างนั้นตลอดไป


- ดังนั้นคุณไม่ได้ทำอะไรเลยเพื่อให้แน่ใจว่าวงจะดำเนินต่อไปได้
Die : ครับ ไลฟ์ต่อไป ทัวร์ครั้งต่อไป การปล่อยงานครั้งต่อไป ยังไงก็ตามมันเป็นสิ่งที่จะเกิดในไม่ช้า พวกเราไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านี้มันจะเกิดขึ้นยังไง แต่ถ้าพวกเราไม่เผชิญหน้ากับอนาคตพวกเราก็ไม่สามารถจะมองเห็นว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไป ก็แค่ทำมันไป ทำไปอีก 20 ปี ผมคิดว่ามันก็อาจจะดีนะ


- คุณหมายความว่าคุณคาดหวังอย่างนั้น แต่ Dir en grey ไม่มีปุ่มเปิดปิดสวิตท์ใช่มั้ย (หัวเราะ)
Die : ใช่ครับ (หัวเราะ) ผมคิดว่าผมต้องการสิ่งที่มีค่าในแต่ละไลฟ์ และในแต่ละผลงานไปทีละอย่างนะ


 -แต่ผมรู้สึกได้ถึงอนาคตของวงเมื่อผมได้ดูไลฟ์ที่ Tokyo International Forum Hall และผมก็ยังได้ฟังผลงานใหม่ของพวกคุณ คุณอาจจะไม่รู้ว่ามันจะสิ้นสุดลงเมื่อไร แต่วงของพวกคุณจะมีวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน มันให้ความรู้สึกว่าวงจะยังดำเนินต่อไป
Die: ก็ใช่ครับ


 -คุณคิดว่าอัลบั้มนี้เป็นยังไง?
Die: อัลบั้มล่าสุดของพวกเราเหรอ?……. ผมรู้สึกว่าพวกเราแสดงตัวตนในสิ่งที่พวกเราสามารถทำได้ในปัจจุบันอย่างตรงไปตรงมา  และการต่อสู้ของพวกเราในปัจจุบัน พวกเราไม่ได้มีท่าทีเหมือนกับว่าจะโจมตีอะไร พวกเราแค่ค้นหาและโชว์อาวุธใหม่ของพวกเรา นี่คือสิ่งที่พวกเราต้องการ ดังนั้นมันจะเป็นยังไงล่ะ


- ใช่ ถ้าไม่ได้รู้สึกเหมือนสิ่งประดิษฐ์บางอย่างก็คือคุณไม่ได้เล็งเป้าหมายไปที่อะไรเลย ถ้าพูดมากกว่านี้มันก็คงเหมือนว่า "พวกเราทำเพลงขึ้นมาและมันจะปรากฏออกมาเอง"
Die: ครับ ทำมันง่ายๆอารมณ์ก็จะออกมาเป็นอย่างนั้นล่ะ


 - นี่มันเป็นเรื่องตายตัว หรือว่าธรรมชาติล่ะ
Die : แน่นอนครับว่ามันเป็นธรรมชาติ ที่ผมคิดอย่างนั้นเพราะว่าพวกเราสามารถทำมันได้ในเวลานี้ มันเหมือนว่าก่อนหน้านี้พวกเราทำมันด้วยความไม่เข้าใจ มีหลายสิ่งในตัวพวกเราที่พวกเรายังบกพร่องในขั้นตอนการทำอัลบั้มใหม่ ดังนั้นเมื่อมีสิ่งที่พวกเราทำได้ พวกเราคิดว่าอยากจะแสดงตัวตนของเราให้ออกมาได้อย่างเหมาะสม


- เหมือนกับว่าปัจจุบันของพวกเราเป็นอย่างนี้?
Die : ครับ ใช่แล้ว อย่างวิธีการที่พวกเราปรับปรุงเพลงใหม่ก็เหมือนกัน มันไม่ใช่การฝืนบังคับให้ "ทำมันอย่างนี้" มันเป็นเพียงแค่ "ถ้าพวกเราในปัจจุบันทำเพลงเหล่านี้ มันจะออกมาเป็นยังไงนะ?"


- มันเป็นธรรมชาติ
Die : ผมรู้สึกอย่างนั้น ประเภทของวงที่คุณมองไม่ได้มีส่วนอะไรนะ มันคือธรรมชาติ (หัวเราะ)



Share this article :

แสดงความคิดเห็น

Popular Posts

 
Support : Creating Website | Johny Template | Mas Template
Copyright © 2011. DIR EN GREY THAILAND FAN CLUB - All Rights Reserved
Template Modify by Creating Website
Proudly powered by Blogger